Day 5 (พุธ 16 ธันวาคม 57) : Shinjuku –> Hakone –> Kawaguchiko
หลังจากที่เราซื้อ Fuji-Hakone Pass จาก Odakyu ไปเมื่อ Day2 เราก็พร้อมจะออกเดินทางไปตามหาฟูจิซังค่า … วันนี้อากาศดี หวังว่าจะได้ชมกันเต็มๆ ค่ะ
6.30น. เดินทางไปสถานีรถไฟ ฝั่ง West เช่นเดิม เพื่อจะไปขึ้น Romancecar รอบ 7.00 น. เพื่อจะไปลงที่สถานี Hakone-Yumoto
พอเดินเข้าสถานี ปกติเวลาเราขึ้นJR เราจะต้องลงบันไดเลื่อนลงไป .. แต่การไปขึ้น Romancecar ไม่ต้องลงไปไหนค่ะ เข้าสถานีปั๊บ มองไปด้านขวามือ จะมีทางเข้าไปชานชาลาเพื่อขึ้น Romancecar โดยเฉพาะ เราก็ยื่น Fuji-Hakone Pass + Romancecar ที่เราปริ๊นมาจากบ้าน ให้เจ้าหน้าที่ดู
พอเข้าไปปุ๊บ เล็งไปที่ Track 2 ขวามือเราเลยค่ะ
เตรียมตัวเดินทาง
ทีนี้จุดสำคัญคือ เราต้องหาตำแหน่งตู้รถที่เราจะขึ้นให้ถูก เพราะ Romancecar จะมีหลายรุ่น เอามาแปะอีกรอบค่ะ
เราต้องดูว่ารถที่เราจะขึ้นเป็นรุ่นไหน อย่างของเตยเป็น EXE10 Carriage no.01 เราก็ต้องเดินไล่ดูว่าตู้รถขบวนของเราจะจอดตรงไหน
ยกตัวอย่างวิธีดูจากในเวป Romancecar http://www.odakyu.jp/english/romancecar/howto/
ของเตยตู้ที่ 1 เราต้องเดินขึ้นไปจนเจอเลข 1 (แทนที่เลข 9 ในภาพ) เดินไล่ขึ้นไปไกลเหมือนกันค่ะ นั่งรอซักพักรถก็มาค่ะ
บรรยากาศในรถค่ะ กระจกบานใหญ่ นั่งชมวิวเพลินๆ
เป็นรถรุ่นเก่า เลยยังมีห้องคนขับอยู่ทางด้านหน้าอยู่ค่ะ
8.40น. ถึงสถานี Hakone-Yumoto แชะภาพกับด้านหน้ารถกันหน่อย
ปล. หลังจากเจอฝนไปเมื่อวาน ใช้พลาสติกคลุมรถเข็น น้องอณิติดใจขอคลุมตลอด คาดว่าลดลมที่โดนหน้า+ช่วยกันหนาวได้ระดับนึงค่ะ
ที่พื้น เค้าก็มีรูปสวยๆ คลาสสิกแบบนี้ ยังไม่เห็นฟูจิซัง แต่ขอถ่ายกับรูปฟูจิเป็นเคล็ดก่อน
แพลนของเราวันนี้คือ ขึ้นรถ Hakone Tozan Bus สาย H (เลข2) จากป้ายหน้าสถานี Hakone-Yumoto เพื่อจะไปลงเรือที่ Motohakone-ko หรือท่าเรือริมทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) นั่นเอง
เห็นที่ขึ้นรถบัสอยู่ด้านหน้า
แต่ๆๆๆ ตอนไปรอรถ เราได้เจอเจ้าหน้าที่ เลยแอบถามเพื่อความแน่ใจว่าเราขึ้นตรงนี้ถูกมั้ย ความโชคดีคือ เตยบอกไปด้วยว่าจะไปลงเรือ .. เจ้าหน้าที่รีบบอกเลยว่า ตรงนี้ถูก แต่วันนี้เรือไม่เปิดให้บริการ เพราะลมแรงมาก แป่วววว อด เราอุตส่าห์คิดว่าอากาศก็ดี งงเลยค่ะ
เราเลยเปลี่ยนแผน เพราะถึงจะไปทะเลสาปอาชิ เราก็ไม่ได้ขึ้นเรืออยู่ดี .. เลยเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Trozan Train แทน เพื่อไปลงสถานี Gora และต่อ Cable car ไปขึ้นกระเช้าที่ Sounzan sta.
เดินกลับไปที่สถานีรถไฟเหมือนเดิม สามารถใช้ Fuji-Hakone Pass ได้ตลอด มารอที่ชานชาลาเบอร์ 3
บรรยากาศภายในรถไฟ
นั่งรถไฟชมวิว
พอถึงสถานี Gora เราก็ไปต่อเคเบิ้ลคาร์ .. ที่ญี่ปุ่นนี่เค้ามีอะไรน่ารักให้เราหยุดดูได้ตลอดทางเลย
ขึ้นเคเบิ้ลคาร์
จากจุดนี้ เราอยู่ที่ Sounzan Sta. เราก็จะไปขึ้นกระเช้า Hakone Ropeway เพื่อเดินทางสู่หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) ที่ยังครุกรุ่นด้วยควันจากบ่อกำมะถันเดือดอยู่ตลอดเวลา
พอเดินเข้าไปด้านใน จะต้องขึ้นบันไดขึ้นไปอีก แต่เราเดินเลยไปขึ้นลิฟท์ได้ ซึ่งทำให้เราผ่านช่องที่เห็นการทำงานของเฟืองที่ใช้หมุนกระเช้า
ลงที่สถานี Owakudani หนาวลมแรงสุดๆ ออกไปทีตัวจะปลิว อันนี้เป็นการพยายามออกไปครั้งแรก
มีบริการถ่ายภาพด้านใน ก็ไปถ่ายเป็นที่ระลึกกันซักหน่อย ^^
ความพยายามที่จะออกไปด้านนอกครั้งที่ 2 ฮาหน้าน้องอณิมาก
ไม่ไหวแล้ว ไปดีกว่าค่ะ สรุปมาแวะไม่ได้เห็นอะไรเลย ฟูจิซังก็ไม่เห็น เพราะท้องฟ้ามัวมั่กๆ
เราเลยนั่งกระเช้าต่อมาลงที่สถานี Tokendai และเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส ไปลงที่โกเทมบะ (Gotemba) เราใช้ Fuji-Hakone Pass ได้ถึงตรงนี้
มีรถไปโกเทมบะทุกครึ่งชม. ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะไปขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 2 ค่ะ แต่ยังไงตรงสถานี Tokendai จะมีเจ้าหน้าที่ให้รายละเอียดตรงนี้ชัดเจนค่ะ
นั่งรถบัสมาถึงโกเทมบะ เราจะไปขึ้นรถต่อเพื่อไป Kawaguchiko เราต้องเดินขึ้นบันไดด้านหลัง เพื่อไปลงอีกฝั่งนึงค่ะ
เดินมาลงฝั่งนี้ค่ะ
เดินลงมาแล้ว เลี้ยวไปทางซ้ายค่ะ
เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอที่ขายตั๋วซ้ายมือ
ตารางเวลารถจากโกเทมบะ ไปคาวาฯ อันนี้ได้มาตั้งแต่ตอนที่ไปซื้อ Pass กับ Odakyu
ก่อนจะไป บ่ายแล้ว เราแวะทานข้าวกลางวันก่อน มีร้านคุณป้าขายราเม็งอูด้ง มีที่นั่งอยู่โต๊ะเดียว และว่างอยู่ ตรงเข้าไปเลยจ้า
อิ่มเรียบร้อย ก็มารอรถไปคาวาฯ ที่ป้ายหมายเลข2
คันนี้เลยค่า
นั่งไปหลับไป เอาแรง
ถึงแล้วค่า คาวากุจิโกะ
ซื้อ Sight Seeing Bus 2 Day Ticket เพื่อนั่งรถบัสเที่ยวคาวาฯ ลงเรือ และขึ้นกระเช้า ได้ที่ช่องขายตั๋วซ้ายมือค่ะ ราคาอยู่ที่ 1,200 เยน
พอออกจากสถานี เดินเลี้ยวขวา ก็เจอรถไฟที่ทุกคนต้องมาถ่ายกัน เราก็จัดบ้าง ยืนยันว่ามาจริงๆ
ฝั่งตรงข้ามรถไฟ ก็คือ Tourist Information ตรงนี้เราให้เจ้าหน้าที่โทร.ติดต่อโรงแรมให้ส่งรถมารับที่นี่
สำหรับที่ Sunide Resort ที่เราจะพักคืนนี้ มีรถบริการรับจากสถานีตั้งแต่บ่าย 2 โมง ถึง 5 โมงเย็น
รอไม่นานรถก็มารับค่ะ
Sunnide Resort จองได้ตามเวปนี้ค่ะ http://www.sunnide.com/englishl.html .. ที่นี่สวยสมคำร่ำลือ
เตยจองห้องแบบ Japanese and Western Style room with Open-air bath ค่ะ ราคา 48,684 เยน ซึ่งเป็นที่พักแพงสุดในทริปนี้ แต่มาถึงก็ประทับใจมากค่ะ ห้องกว้าง สะอาด วิวสวยสุดๆ
เข้าไปปุ๊บ เดินไปนิดนึง ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ซึ่งไฮเทคมาก แค่เปิดประตู เดินเข้าไปฝาชักโครกก็เปิดขึ้นมาเอง เสร็จธุระแล้ว ลุกขึ้นน้ำก็ชักโครกเอง ฝาที่นั่งปรับอุณหภูมิ ปุ่มต่างๆมาเต็ม
มีเก้าอี้นวด นั่งชมวิว พร้อมพื้นปรับอุณหภูมิอุ่นสบาย
เตียงนอนสะอาด นุ่มนอนสบายสุดๆ
ที่นั่งชมวิว แต่ตอนนี้ทั้งวันยังไม่เห็นยอดฟูจิซังเลยค่ะ พรุ่งนี้หวังว่าจะได้สวัสดีตอนเช้ากัน 🙂
อ่างแช่น้ำร้อน Open-air ไฮไลท์ของห้องนี้ค่ะ
แล้วนู๋อณิก็อดใจไม่ไหว ขอลงไปแช่เรียบร้อย
แช่น้ำเสร็จ เราก็ต้องเป็นญี่ปุ่นกันหน่อย เตรียมพร้อมออกไปทานอาหารเย็น
กว่าจะมีรูปคู่ ต้องวานลูกสาวถ่าย .. หน้าหนาวก็จะมีเสื้อทับให้อีกชั้นนึงแบบนี้
ห้องเราแจ้งโรงแรมไว้ว่าจะทานอาหารเย็น 6 โมง (เริ่มเวลา 6:00pm~สุดท้าย 7:00pm .. แจ้งโรงแรมได้ว่าจะทานกี่โมง)
ปล.ที่นี่เราต้องมาเช็คอินให้ทัน 6 โมงเย็น ถึงจะไม่พลาดอาหารเย็นที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ ถ้ามาเช็คอินไม่ทันโรงแรมไม่สามารถให้บริการอาหารเย็นได้ และจะไม่มีการคืนเงินในส่วนของอาหารเย็น
ได้เวลาเราก็ลงไปที่ห้องอาหารค่ะ .. เมนูอาหารค่ำวันนี้
ก่อนอาหารมาเสริฟ ก็มีผงโรยข้าวสำหรับเด็กมาให้
อาหารมาแล้วค่าาา.. เรื่องรสชาติเรียกว่าอร่อยทีเดียวค่ะสำหรับเตย แต่ต้องขอออกตัวว่าเป็นคนไม่เชี่ยวชาญเรื่องอาหาร เรียกว่าทานที่ไหนก็อร่อยไปหมด หรือที่ไหนที่เค้าว่าไม่อร่อยเลย เตยก็ว่าพอกินได้อ่ะค่ะ เพราะฉะนั้นถือว่าเชื่อเตยไม่ได้ค่ะ ><
พนักงานโรงแรมจะมาเสริฟเป็นเซทๆ ตามเมนูค่ะ .. กว่าจะครบ อิ่มมากค่ะ
ตบท้ายด้วยข้าว (ที่ญี่ปุ่นเค้าเสริฟข้าวทีหลัง แปลกดีค่ะ แต่กว่าจะถึงข้าวก็แทบทานไม่ไหวแล้วค่ะ) และตามด้วยของหวาน
อิ่มอร่อยกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาพาคุณหนูอณินอนค่ะ .. พอคุณลูกหลับ ก็ได้เวลาเราไปปิดท้ายวันด้วยการแช่น้ำแร่อองเซนที่ห้องรวมค่ะ เค้าปิด 5 ทุ่ม เลยมีเวลาได้ไปผ่อนคลายกันหน่อย โชคดีตอนเตยไปไม่มีคนเลย สบายเรา
รวมค่าใช้จ่ายของ Day 5
1. ค่าน้ำที่สถานีรถไฟ 610 เยน
2. ค่าไอติม+ขนม ที่ Owakudani 1,030 เยน
3. ค่าอาหารที่ Bellmall Gotemba 1,783 เยน
4. อาหารกลางวันร้านอูด้งที่สถานีโกเทมบะ 700 เยน
5. ค่ารถบัสจาก โกเทมบะ ไป คาวากูชิโกะ 3,020 เยน
6. ค่า Sight seeing bus + กระเช้า+เรือที่คาวาฯ 2 คน 2,400 เยน
รวม 9,543 เยน
***********************************************************************************************************************
Day 6 (พฤหัส 17 ธันวาคม 57) : Kawaguchiko
วันนี้เราตื่นเช้ามา ก็เจอฟูจิซังมาทักทายเราถึงห้องพัก เย้! ในที่สุดท้องฟ้าก็เป็นใจ
แช่น้ำดื่มดำบรรยากาศยามเช้ากับวิวงามๆ
ชักภาพกันซักหน่อย (แต่วิวฟูจินี่ ถ่ายยากจริงค่ะ ถ้าเอาคนด้วย มันย้อนแสงตลอดๆ)
ทานอาหารเสร็จ วิวหน้าห้องอาหารก็สวย
ใกล้ๆ 10 โมง เราก็เตรียม Check-out .. โรงแรมจะมีรถไปส่งเราที่สถานีคาวาฯ รอบเดียวตอน 10 โมง
ถ่ายภาพหน้าโรงแรมอีกซักที วิวสวย เห็นฟูจิซังเต็มๆ
พอไปถึงสถานีคาวาฯ เราก็เอาสัมภาระฝากล๊อกเกอร์เอาไว้ และเตรียมเที่ยวในคาวากุจิโกะกัน
แผนที่ที่เราได้จะไปกันวันนี้ ตามแผนที่ เราสามารถขึ้นรถบัสขึ้นลงป้ายต่างๆ ได้เลย แต่ละป้ายก็มีที่เที่ยวและจุดชมวิวต่างๆ กันไปค่ะ
ของเตยได้ไปตามป้ายที่วงไว้ค่ะ
ตอนแรกเตยกะว่าจะย้อนไปป้ายรถป้ายสุดท้ายคือ ป้าย 22 ก่อน แล้วค่อยย้อนไล่กลับมา (ความจริงอยู่ต่อจาก Sunnide Resort ไป 2 ป้ายเอง แต่เราอยากเอาของไปเก็บให้เสร็จๆ ไปก่อน เลยนั่งรถโรงแรมไปเริ่มที่สถานีคาวาฯ) แต่พอถึงจุดกระเช้า ป้ายที่ 11 เตยก็คิดว่าลงที่นี่เลยดีกว่า เพราะจากที่มาญี่ปุ่นตั้งแต่วันแรกของทริปนี้ ท้องฟ้าจะค่อนข้างมืดเร็ว แล้วช่วงบ่ายลมก็ค่อนข้างแรง กลัวว่ากว่าจะย้อนกลับมากระเช้าจะปิดซะก่อน
เริ่มจากป้ายที่ 1 หน้าสถานีคาวากุจิโกะ จากที่เคยหาข้อมูล หลายๆคนบอกว่ารถบัสที่นี่ไม่ค่อยตรงเวลา แต่วันนี้ที่เตยไปค่อนข้างโอเคนะคะ มาใกล้เคียงกับเวลาที่ระบุไว้
จุดแรก เราลงป้ายที่ 11 Yuransen Ropeway Iriguchi ขึ้นกระเช้าไปชมวิวทะเลสาบคาวากูจิโกะและภูเขาไฟฟูจิ
ลงรถปุ๊บ เราจะเห็นร้านคุ๊กกี้น่ารักๆ น่านั่งชิลมากๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม ข้ามไปเลยค่า .. ข้างๆ จะมีให้เราไต่เนินขึ้นไป
สัญลักษณ์ของกระเช้านี้เป็นรูปน้องกระต่าย น้องอณิชอบมาก นางนึกว่าเจอเพื่อน 55 .. อันนี้ด้านหน้าทางเข้าค่ะ
ใครหาสิ่งแปลกปลอมเจอมั่งคะ เนียนมากๆ 😛
ที่คาวาฯ จะชอบมากที่สุดก็คงที่นี่เอง .. ท่าต้องเป๊ะ
เดินขึ้นไปค่า เราเอาตั๋วที่เราซื้อมาส่วนของ Ropeway ให้เจ้าหน้าที่ไป เค้าจะแลกเอาตั๋วจริงของที่นี่ให้ค่ะ .. ขึ้นไปแล้วลมแรงเชียว
เอ่อ ลูกค้า ช่วยสนใจวิวฟูจิซังหน่อยค่ะ คือ คุณอณิสนแต่เพื่อนๆ สั่งให้มี๊เตยถ่ายรูปให้ตลอดๆ
มุมที่พลาดไม่ได้กับการมาถึงที่นี่ (แต่ถ่ายให้เห็นวิวสวยๆ ยากจิง)
เค้าว่ามาแล้วต้องลองทานขนมของที่นี่ ทานไปชมวิวไป .. แต่เตยว่ารสมันแปลกๆ ค่ะ จะหวานก็ไม่หวาน จะเค็มก็ปะแล่มๆ
ชอบมากจริงๆ อณิและผองเพื่อน
ใครอยากเดินชมวิวไปในป่า ก็ไปได้ตามอัธยาศัย
อยู่บนนี้พอหอมปากหอมคอ เราก็ลง เพื่อจะไปจุดอื่นต่อ ตอนลงลมแรงมว๊ากกกก .. พอลงมาถึงเจอป้ายนี้ .. โชคดีจริงๆ ที่เราตัดสินใจแวะที่นี่เป็นที่แรก
ต่อไปเราก็จะไปนั่งเรือชมวิวในทะเลสาป ข้ามกลับไปฝั่งตรงข้ามที่เราลงรถบัสมา แล้วไม่ต้องเดินตรงไปตรงทะเลสาบนะคะ ป้ายเค้าบอกว่าจะขึ้นเรือให้เดินไปทางซ้าย 50 เมตร ค่ะ
เรือเค้าก็จะออกเป็นรอบๆ ตอนเราไปเรือพึ่งออกไป เลยต้องรอรอบต่อไป ก็เลยได้โอกาสนั่งหาอะไรทานรองท้องช่วงกลางวันนิดหน่อยค่ะ
นั่งเรือชมวิว แต่น้องอณิไม่ยอมออกไปดาดฟ้านะคะ จะอยู่แต่ด้านในห้อง
ภาพบนดาดฟ้าเรือ ป่ะป๊าเบิ้ลออกไปถ่ายมาให้
นั่งเรือเสร็จ เราก็เดินกลับมาที่ป้ายรถบัสที่เดิม
พอขึ้นรถอณิหลับ เราเลยจะไปป้ายสุดท้ายกันก่อน ป้ายที่ 22 Kawaguchiko Natural Living Center
นู๋หลับ แต่นู๋ก็มาถึงแล้วนะค้า
ช่วงนี้นาทีทอง มี๊เตยกับป่ะป๊าเบิ้ล ก็นั่งชิลในร้านขายของที่ระลึก และชากาแฟ .. จิบชา+ไอศกรีมวานิลา-บลูเบอรี่ เบาๆ
ชิลกันไปพักใหญ่ เราก็เดินทางต่อมายังป้ายที่ 18 Kawaguchiko Sarumawashi Theater (Monkey Show)
รอบการแสดงมีรอบบ่าย 3 .. ต้องรอประมาณ40 นาที แต่น้องอณิยังหลับอยู่ เราก็เลยโอเค พอดีกับให้น้องอณินอนให้เต็มที่ด้วย
ซื้อตั๋วตรงนี้ ค่าตั๋ว ผู้ใหญ่คนละ 1500 เยน เด็ก 750 เยน
ตื่นมาดูการแสดงแล้วค่า น้องอณิชอบสัตว์มาก เห็นลิงตาปิ๊งๆเลย .. ระหว่างการแสดงเค้าไม่ให้ถ่ายรูปด้านในนะคะ จะมีให้ถ่ายแค่ช่วงนี้ค่ะ
คนมาดูโชว์น้อยมากค่ะ ตอนเตยไป รวมเตยด้วยมีแค่ 3 ครอบครัวเอง .. 2ใน3 เป็นคนไทยค่ะ ^^ การแสดงก็สนุกระดับนึงค่ะแต่ไม่มาก มีลิงแสดงอยู่ 2 ตัว แต่น้องอณิชอบมากเรียกว่าหัวเราะคุ้มค่าตั๋วอยู่คนเดียว
ดูโชว์ลิงจบ เราก็จะไปต่อที่ป้ายถัดไป ป้าย 17 Ukai Kawaguchiko Music Forest ต่อจากป้ายโชว์ลิงป้ายเดียว เราเลยเดินไปค่ะ
Music Forest จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโชว์ลิงค่ะ เราเลยข้ามถนนแล้วเดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงค่ะ
ค่าเข้า Music Forest ผู้ใหญ่คนละ 1300 เยน ค่ะ .. น้องอณิเจอสัตว์อีกแล้ว เจอตัวนี้แล้วก็ไม่สนอะไรอีก จะอยู่ตรงนี้ท่าเดียว
ร้านขายของที่ระลึกน่ารักมากค่ะ
ที่นี่ก็มีวิวฟูจิให้เก็บภาพกันอีกแล้ว แสงยามเย็นก่อนจะมืดค่ะ
มีการแสดงหีบเพลงขนาดใหญ่
ออกมาก็ยังเจอตัวเดิมคอยอยู่
รูปสุดท้ายก่อนฟ้าจะมืดสนิท
ออกมาจาก Music Forest แล้วเราก็เดินไปขึ้นรถฝั่งตรงข้ามเพื่อจะกลับไปที่สถานีคาวาฯ
ถึงสถานี เรามีเวลา 1 ชม. ก่อนที่จะถึงเวลารถบัสมา เลยไปหาร้านทานข้าวด้านนอกหน้าสถานี เพราะที่สถานีก็มีแต่อูด้ง ชักจะเบื่อมากละค่ะ เคยอ่านเจอเค้าว่าร้านฝั่งตรงข้ามที่เป็นประตูไม้อร่อยมาก แต่ตอนนั้นประมาณ 6 โมงเย็น ร้านปิดไปแล้ว .. ร้านที่เค้าว่าอยู่ชั้น 2 ของร้านขายของที่ระลึก ก็ปิดเหมือนกัน
เตยเลยเดินไปทางขวามือแทน เลยมาเจอกับร้านนี้ ตอนเดินไปถึง ร้านเหมือนกำลังปิดไฟ เลยโผล่ไปถามเค้าว่ายังเปิดมั้ย
ที่ร้านเป็นคุณยาย 1 คน กับคุณป้า 1 คน เลยกดเปิดไฟ แล้วบอกเราว่าเปิดๆ เชิญเข้ามานั่ง .. ดีใจมากเลยตอนนั้นเพราะหิวมากแล้ว
ที่ร้านเป็นร้านญี่ปุ่นแบบบ้านๆ ส่วนตัวเตยว่าอาหารอร่อยดี แถมคุณยายทำไม่นานด้วย ตอนแรกนึกว่าจะนานกว่านี้เพราะเห็นจะปิดร้านแล้ว
ทานเสร็จเราก็เดินกลับไปรอรถที่สถานี ระหว่างรอน้องอณิอินกับคนที่เป็นคนพูดเชิญดูการแสดงที่ Music Forest ..
เลียนแบบ เชิญผู้ชมชมการแสดง
รถใกล้มาแล้ว ไปรอขึ้นกันที่ป้ายนี้เลยค่ะ ออกมาหน้าสถานี เดินมาทางซ้าย
19.10น. รถออก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม. ก็ถึงท่ารถที่ชินจูกุ ซึ่งห่างจากที่พักเรานิดเดียว เดินใกล้มากค่ะ
กลับมาถึงที่ Kadoya Hotel เราก็เช็คอินเข้าพักอีกรอบ ห้อง Double Standard เหมือนเดิม
รวมค่าใช้จ่ายของ Day 6
1. ค่า Locker ที่สถานีคาวาฯ 300 เยน
2. ค่า Locker ที่กระเช้า 200 เยน
3. ค่า Hotdog ที่ตู้อัตโนมัติ 360 เยน
4. ค่าชา ไอติม ที่ Natural Living 750 เยน
5. ค่าเข้า monkey show 3,750 เยน
6. ค่าเข้า music forest 2,600 เยน
7. ค่าอาหารเย็นที่ร้านใกล้สถานีคาวา 1,900 เยน
8. Lawson ชินจูกุ 3,812 เยน
9. ซักผ้า+ปั่นแห้ง 740 เยน
รวม 14,412 เยน