Day 4 (อังคาร 3 พฤษภาคม 59) : Kobe Anpanman Children’s Museum
วันนี้จะพาน้องอณิไป Kobe Anpanman Children’s Museum ค่ะ เพราะตอนที่ไปโตเกียวรอบที่แล้ว เราตัดรายการ Anpanman Museum ที่โยโกฮาม่าไปค่ะ รอบนี้เลยลองพาไปซักหน่อย ลิ้งค์โบรชัวร์ภาษาอังกฤษตามนี้ค่ะ http://www.kobe-anpanman.jp/pdf/foreign_brochure.pdf
แผนที่ค่ะ
ที่นี่เค้า เปิด 10.00-18.00 ค่ะ จริงๆ กะไว้ว่าถ้าไปถึงเร็ว ( เสร็จแล้วถ้ามีเวลาจะพาน้องอณิไป Kobe Animal Kingdom ต่อ แต่เนื่องจากเมื่อคืนกว่าจะกลับจาก Universal ก็ค่อนข้างดึก และเหนื่อยพอสมควร วันนี้กว่าจะออกเลยค่อนข้างสายค่ะ ไปถึง Anpanman ก็แถวๆ บ่ายโมงแล้ว เลยไม่ได้ไปไหนต่อค่ะ
วันนี้เราจะใช้บัตร Hanshin Tourist Pass จากนัมบะสู่โกเบ 1 day ที่เราซื้อเอาไว้ในราคาใบละ 500 เยนค่ะ
เส้นทางที่เราจะไป ตามนี้ค่ะ นั่งรถไฟสาย Hanshin เส้นสีเหลือง จาก Osaka-Namba ต่อรถที่ Amagasaki ไปลงที่ Kosoku-Kobe
จริงๆ ถ้าใครมี JR-Pass จะนั่งสาย JR เส้นสีฟ้าก็ไปได้สบายๆ เหมือนกันค่ะ สถานีที่ลงเดินใกล้กว่า Hanshin ด้วยค่ะ แต่เตยเลือก Hanshin เพราะเห็นว่าประหยัดดีค่ะ 55 ดูจาก Hyperdia เที่ยวเดียวก็ 540 แล้ว เรามีบัตร Hanshin Tourist Pass ก็ไปกลับได้ในราคา 500 เยนค่ะ แถมถ้าใครมีเวลาเที่ยวที่โกเบทั้งวัน บัตรนี้ขึ้นลงรถไฟสาย Hanshin ได้ทั้งวัน คุ้มมากเลยค่ะ
ออกเดินทางกันค่ะ จากโรงแรม เราเดินลงใต้ดินเหมือนเดิม แต่วันนี้เราจะหาป้ายสถานีรถไฟ Hanshin Line ค่ะ
หาชานชาลาที่ไป Amagasaki ค่ะ … Track 3
รถไฟมาแล้วค่าาาา (ปล.กระเป๋ามินเนี่ยนได้มาเมื่อวานจาก USJ น้องอณิใส่ตลอดทำหน้าที่เก็บเหรียญให้ปะป๊าค่ะ)
นั่งรถไฟประมาณ 50 นาที ก็ถึงสถานี Kosoku-Kobe ค่ะ ถึงแล้วหาทางออก East Exit นะคะ ออกมาแล้ว เลี้ยวซ้าย จะเจอป้ายนี้ค่ะ เราจะเดินไปทาง JR Kobe Station ค่ะ
อันนี้ถ่ายย้อนกลับเข้าไปทางที่เราออกมา ก็จะเจออันปังแมนชี้ทางชัดเจนค่ะ
มีป้ายบอกทางเรื่อยๆ ค่ะ เรามุ่งหน้าไป Harborland ค่ะ
เดินใต้ดินไปเรื่อยๆ ค่ะ
ตอนแรกเตยเห็นกลุ่มเด็กๆ เดินขึ้นบันไดระหว่างทางบ้าง ก็คิดถึงทฤษฎีตามเด็กอยู่เหมือนกันค่ะ 55 แต่เราได้เหลือบไปเห็นรูปสมาชิกอันปังแทรกตัวอยู่ตามพื้นเป็นระยะๆ เลยตัดสินใจเดินตามอันปังจะดีกว่าตามหมู่เด็กค่า
เจอโถงตรงนี้ เราก็เน้นเดินตามรูปอันปังที่พื้นต่อไปค่ะ
จากแผนที่ เราจะไปออกที่ทางออก 26 ค่ะ
ระหว่างทาง น้องอณิหิวแล้ว เลยแวะพักทานข้าวกลางวันก่อนดีกว่าค่า ทานกันที่ร้านนี้ค่ะ
มีชุดอาหารเด็กด้วยค่ะ
ค่าอาหารกลางวันที่นี่ 2,116 เยน ค่ะ …อิ่มท้องแล้ว ก็ไปต่อกันค่ะ
ไปจนถึงทางออก 26 ถึงขึ้นไปด้านบนค่ะ
ขึ้นมาแล้ว รูปอันปังที่พื้นก็ยังไม่ทิ้งเราค่า ให้เดินกลับหลังหันไปนะคะ
เจอรูปปั้นเหล่าอันปังตามรายทางค่ะ
ข้ามถนนไปอีกหน่อยค่ะ
มีธงนำไปตลอดทางค่ะ
ถึงซะทีค่า >< ด้านหลังเป็น ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ Mosaic ค่ะ
ไป Museum ขึ้นด้านบนค่ะ ไป Mall เดินตรงเข้าไปค่ะ แต่ถ้าเราจะไปขึ้นลิฟท์ก็เดินเข้าไปทางเข้า Mall ค่ะ
ซื้อบัตรกันก่อนค่ะ คนละ 1,500 เยน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ
ซื้อบัตรเรียบร้อยได้ป๋องแป๋งอันปังสำหรับเด็กมา 1 อันค่ะ
ด้านหน้าทางเข้า มีเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปให้ค่ะ แต่ตรงนี้ใครถ่ายอยากได้รูปก็ต้องเสียตังค์ตามระเบียบค่ะ
บรรยากาศด้านในค่ะ เข้าไปปั๊บก็เจอตัวการ์ตูนน่ารักๆ ให้เก็บภาพกันค่ะ (เตยไม่ได้ถ่ายรูปในนี้มาทั้งหมดนะคะ ถ่ายมาคร่าวๆ ค่ะ เพราะเด็กเยอะมากเลยค่ะ)
มีโซนร้านอาหาร ร้านขนม ให้เด็กๆ มาเล่นกันค่ะ
บรรยากาศของเล่นรวมๆ ค่ะ
มีโซนโมเดลอันปังจำลอง
โซนลูกบอลอันปังเด้งดึ๋ง
มีเล่านิทานหุ่นเชิดอันปังด้วยค่ะ
มีการแสดงตรงเวทีค่ะ รอบแสดงเช็คเวลากับเจ้าหน้าที่ดูค่ะ ก่อนเวลาแสดงก็มีฉายการ์ตูนอันปังให้เด็กๆที่นั่งรอดูเพลินๆ ค่ะ
อันปังและผองเพื่อนมาแล้วค่าาา ส่วนใหญ่เป็นการโชว์เพลงเด็กๆ เต้นตามเพลง ค่ะ
เดินมาหาผู้ชมแบบใกล้ชิดมากๆค่ะ
จะมีบางเพลงให้เด็กๆ ปั่นป๋องแป๋งตามจังหวะเพลงค่ะ
ดูโชว์จบ ก่อนออกจากที่นี่เราแวะไปทานขนมกันที่ Cafe จะอยู่ตรงด้านหน้าทางที่เราเข้ามาเลยค่ะ
ขนมน่ารักน่ากินมากๆ เลยค่ะ .. นู๋จะสั่งอันนี้ค่าาา
ในร้านมีมุมหนังสือให้อ่านเพลินๆ
ขนมที่สั่ง มาเสิร์ฟแล้วค่าาา น่ารักจริงๆค่ะ
น้องอณิฟินเลยค่ะ
ทานเสร็จก่อนออกจากที่นี่ โชคดีเจอพี่อันปังออกมาทักทายเด็กๆ อณิตาไวมาก วิ่งจู๊ดเข้าไปคนแรกเลยค่ะ 😛
สำหรับ Anpanman Museum ที่โกเบ ส่วนตัวเตยว่าค่อนข้างเล็ก ที่เล่นมีไม่มากเท่าไหร่ค่ะ เหมาะกับเด็กเล็กๆ ซัก 2-3 ขวบ มากกว่าค่ะ น้องอณิ 4.9 ขวบนี่เตยว่าโตไปนิด เล่นนู่นนิดนี่หน่อย แป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว ดีที่น้องอณิมาฟินกับการเจอพี่อันปังมาสคอตค่ะ ในส่วนของ Mall เตยไม่ได้เดินเข้าไปค่ะ เพราะไม่ได้เป็นสาวกอันปังเท่าไหร่ค่ะ ดูจากด้านนอกก็น่าจะของเยอะพอสมควรค่ะ ถ้ามาเที่ยวโกเบเต็มๆ อยู่แล้วแวะมาก็ไม่เสียหายค่ะ แต่ถ้าตั้งใจมาแค่ที่เดียวแบบเตยอาจจะไม่คุ้มกับการนั่งรถมาไกลๆ เท่าไหร่ค่ะ
ออกจาก Anpanman Museum ก็ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ Mosaic ค่ะ ตอนออกมาฝนตกเล็กน้อยค่ะ ค่าขึ้นชิงช้าสวรรค์ ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน รวม 2400 เยน ค่ะ
ลงมาจากชิงช้าสวรรค์อันปังก็ปิดละค่ะ ถ่ายภาพหน้า Museum อีกซักภาพค่ะ
บรรยากาศรอบๆ ค่ะ (น้องอณิไม่ยอมออกจากรถเข็นมาถ่าย มามี๊เลยต้องถ่ายเองค่ะ)
มื้อเย็น เราไปทานที่ร้านใกล้ๆ ค่ะ เป็นร้านที่เน้นชีสสสสส กระทะร้อน (ลืมถ่ายตอนอาหารเพิ่งมาเสิร์ฟค่ะ เลยได้ภาพมาแบบไม่ค่อยสวยนะค้า แล้วก็ลืมถ่ายหน้าร้านอีกตะหากค่ะ -_-‘)
ปิดท้ายวันนี้ด้วยภาพชิงช้าสวรรค์ช่วงกลางคืนนะคะ ^^
********************************************************************
Day 5 (พุธ 4 พฤษภาคม 59) : Traffic Amusement Park / Osaka Aquarium Kaiyukan / Cruise Ship Santa Maria / Tempozan Giant Ferris Wheels / สวนอาหารนานิวะ Naniwa Kuishimbo Yokocko
เช้าวันนี้เราจะไป Traffic Amusement Park หรือ สวนสนุกจราจรกันค่ะ เส้นทางต้องไปรถไฟสาย Nankai ค่ะ เราจะใช้บัตรเติมเงิน Kansai One Pass ปกติค่ะ
การเดินทาง เริ่มจาก Namba (Nankai) สายสีเขียวค่ะ (เดินจากโรงแรมเหมือนกันแรกที่ไป Misaki Park ค่ะ) ไปเปลี่ยนรถที่สถานี Sakai และลงที่สถานี Hamaderakoen
เส้นทางมีให้ Reserved Seat ได้ค่ะ แต่เตยไม่ได้ Reserve นั่งที่นั่งตู้ธรรมดาค่ะ
จากสถานี Namba (Nankai) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ถึงสถานี Hamaderakoen ค่ะ
พอลงรถปั๊บ วันนี้เราก็ใช้ทฤษฎีเดินตามหมู่เด็กๆ ไปค่ะ 55
เดินออกไปทาง West Exit ค่ะ
ออกจากสถานี เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปเรื่อยๆ เลยค่ะ
ข้ามถนนไปอีกนิดนึงก็ถึงสวนสาธารณะ Hamadera Park แล้วค่ะ
สวนสาธารณะ Hamadera Park เปิด 9.00-17.00น. ค่ะ
จากแผนที่สวนสาธารณะ ตอนนี้เราอยู่วงกลมเล็กด้านล่างขวามือค่ะ ถ้าเราเดินตรงขึ้นไปจะเจอกับส่วนของสวนกุหลาบ (Rose Garden) เราสามารถเดินทะลุเข้าไปชมสวนกุหลาบแล้วไปขึ้นรถรถไฟที่วิ่งภายในสวนสาธารณะชื่อ Naniwa ตรงที่ลูกศรชี้ได้ค่ะ หรือถ้าใครไม่เข้าชมสวนกุหลาบ ก็สามารถเดินเลี้ยวซ้ายเลียบด้านนอกสวนกุหลาบไปเรื่อยๆ ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนที่วงไว้ด้านซ้ายในแผนที่ คือสวนสนุกจราจรที่เราจะไปกันค่ะ
ระหว่างทางที่เราจะเดินไปสวนกุหลาบ ก็จะเห็นชาวญี่ปุ่นมาปิคนิคพักผ่อนกันในวันอากาศดีๆ แบบนี้เยอะเลยค่ะ สวน Hamadera เป็นสวนที่ร่มรื่นมากๆ ถ้ามีเวลาเยอะๆ สามารถมาเที่ยวพักผ่อนกันได้ทั้งวันเลยค่ะ
เราเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนเจอด้านหน้าของ Rose Garden
เดินขึ้นบันไดไปนิดนึง ก็จะเจอทางเข้าสวนกุหลาบค่ะ สวนกุหลาบ (Rose Garden) เปิด 10.00-17.00น.ค่ะ ถ้าใครไม่เข้าด้านใน ก็เดินเลี้ยวไปทางซ้ายเพื่อไปขึ้นรถไฟได้เลยค่ะ
เราจะเข้าไปดูด้านในของสวนกุหลาบกันค่ะ เดินชมกันไปเพลินๆ ค่ะ
วันนี้ในสวนไม่ค่อยมีดอกไม้ให้เห็นเลยค่ะ สงสัยจะมาช่วงที่ดอกไม่ออกนะคะเนี่ย แต่โดยรวมก็เป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ
เดินไปซักพักก็เจอประตูทางออก มองตรงด้านหน้าเห็นสถานีรถไฟสาย Naniwa เลยค่ะ
มองจากสถานีรถไฟ หันกลับไปก็จะเห็นประตูสวนที่เราออกมาค่ะ
ซื้อตั๋วขึ้นรถไฟได้จากตู้ขายตั๋วข้างๆ ค่ะ ผู้ใหญ่ราคาคนละ 300 เยน เด็กราคา 140 เยน
บรรยากาศบนรถไฟค่ะ
ระหว่างทางก็จะเห็นสวนสาธารณะรอบๆ ค่ะ มีสนามเด็กเล่น น่าเล่นมากๆ ค่ะ
นั่งรถไฟไม่นานค่ะ ประมาณไม่ถึง 10 นาที ก็เห็นส่วนของสวนสนุกจราจรละค่ะ
ถึงแล้วค่าาา
ถึงปั๊บเตยก็ให้น้องอณิไปขับ G0-Kart กับปะป๊าค่ะ ถ้าขับเองต้องสูง 120ซม.
ค่า go-kart คนละ 300 เยน ค่ะ
มีรถหยอดเหรียญให้เด็กเล็กขับกันด้วยค่ะ .. เตยชอบที่ญี่ปุ่นมากค่ะ เพราะเค้ามีอะไรน่ารักๆ ตลอด ขนาด Line สำหรับต่อคิวเล่นก็ยังมีดีเทลน่ารักๆ ค่ะ
นอกจากมีรถให้เด็กๆ ขับเล่นกันแล้ว ที่นี่เค้ายังทำถนนแยกไฟแดง และทางข้าม ให้เด็กๆ มาฝึกข้ามถนนกันด้วยค่ะ น่ารักเก๋ไก๋มากๆ ค่ะ
และอีกโซนยังมีรถไฟโบราณ ให้เด็กๆ มาดู และลองขึ้นไปนั่งด้วยค่ะ
ด้านในรถไฟค่ะ
เที่ยวเล่นกันจนครบ ก็ได้เวลาไปเที่ยวที่อื่นกันต่อค่ะ .. ตู้ขายน้ำหน้าสถานียังทำเป็นธีมรถไฟได้น่ารักมากค่ะ
ขากลับเราก็นั่งรถไฟกลับเหมือนเดิมค่ะ รถไฟไม่มีรอบเวลานะคะ แต่วิ่งวนรับส่งตลอด ใช้เวลารอไม่นานค่ะ
ขากลับน้องอณิออกมายืนรับลมที่ท้ายขบวน ชมวิวเพลินๆ ค่ะ
พอถึงสถานีตรงหน้าสวนกุหลาบ ขากลับเราไม่เข้าสวนกุหลาบแล้วค่ะ เราเดินเลี้ยวขวาไปเดินเลาะข้างสวนเพื่อกลับไปที่ทางออกค่ะ ทางเดินร่มรื่นมากค่ะ เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะไปผ่านทางเข้าสวนกุหลาบที่เราเข้าเมื่อเช้าค่ะ
เราเดินกลับไปที่สถานี Hamaderakoen เหมือนเดิม เพื่อที่จะเดินทางไปเที่ยวต่อในช่วงบ่ายค่ะ
สำหรับ Traffic Amusement Park หรือ สวนสนุกจราจร ที่เรามากันวันนี้คนไม่เยอะเลยค่ะ จะไปเยอะตรงส่วนที่มาปิกนิคกันซะมากกว่า จริงๆ เมืองตรงสถานี Hamaderakoen เป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ ที่น่าเที่ยวอยู่นะคะ เตยเดินผ่านเหมือนจะเห็นป้ายที่ว่าเมืองนี้มีอะไรให้เที่ยวบ้าง แต่พอดีลืมถ่ายเก็บมาค่ะ ดูคร่าวๆ น่าสนใจเหมือนกันค่ะสำหรับ 1 day trip แต่เนื่องจากเตยไม่เคยมีข้อมูลส่วนนี้มาก่อน เลยไม่ได้วางแพลนไว้ค่ะ ถ้าใครสนใจลองหาข้อมูลไปเที่ยวกันดูนะคะ ^^ สำหรับช่วงบ่ายเตยต้องพาน้องอณิไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยุคังตามแผนค่ะ เพราะวันนี้ช่วงบ่ายเรามีนัดกับเพื่อนที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่โอซาก้าด้วยค่ะ
จะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยุคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) เราต้องนั่งรถไฟไปลงสถานี Osakako ซึ่งเป็น Subway line ค่ะ
เสิร์ชจาก Hyperdia มา เตยเลือกเส้นทางตามนี้ค่ะ โดยที่เตยวงกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงเอาไว้คือสาย Subway ที่เราสามารถใช้ 2 Day – Osaka Amazing Pass ที่เราซื้อเอาไว้ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นเตยจะเริ่มใช้ Osaka Amazing Pass ตั้งแต่สถานี Tengachaya ค่ะ
สามารถเช็คเส้นทางที่สามารถใช้ Pass ได้ ตามลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.osaka-info.jp/osp/en/kukan/kukan_2day.html เค้าจะมีให้เลือกค่ะว่าจะดูแบบ 1 day หรือ 2 day ค่ะ ตอนเช็คอย่าลืมเลือกให้ถูกกับ Pass ของเราด้วยนะคะ และเราสามารถเช็ครายละเอียดสถานที่เที่ยวในเส้นทางของ Pass ที่เราจะไป ว่ามีรายละเอียดการให้บริการยังไง วันที่เราจะไปเค้าเปิดรึเปล่า ตามลิงค์นี้ค่ะ http://www.osaka-info.jp/osp/en/calendar/calendar.php
สำหรับเรา เราจะนั่งจากสถานี Hamaderakoen (ในส่วนของเส้นสีเทาๆ อันนี้ยังไม่อยู่ใน Osaka Amazing Pass ค่ะ ต้องใช้ Kansai one pass ไปก่อน) แล้วไปเปลี่ยนรถที่สถานี Tengachaya ซึ่งตรงนี้เราเริ่มใช้ 2 Day Osaka Amazing Pass ได้เลยค่ะ และจะไปเปลี่ยนรถอีกทีที่สถานี Sakaisuji-Hommachi แล้วนั่งยาวไปลง Osakako ค่ะ
จริงๆ เส้นทางตรงนี้ สามารถไปได้หลายทางเลยค่ะ ทั้งนี้หลายๆ ครั้งก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่เราเสิร์ชใน Hyperdia ว่าเวลาใกล้ๆที่เราจะขึ้นรถไฟ เส้นทางไหนจะขึ้นมาให้เรา การใช้ Osaka Amazing Pass เตยก็จะดูจากแผนที่ของ Pass เป็นหลักค่ะ ว่าสถานีไหนเริ่มใช้ Pass ได้ อย่างเช่น จริงๆ เราอาจจะเสิร์ชขึ้นมาได้ว่า จาก Hamaderakoen ไปเปลี่ยนรถที่ Sakai แล้วไปเปลี่ยนสายอีกทีที่ Shin-Immamiya นั่งไปลง Bentencho ซึ่งจะเริ่มใช้ pass ได้ตรงนี้ค่ะ แล้วไปลงที่ Osakako แบบนี้ก็ได้ค่ะ เปลี่ยนสายเยอะ แต่ใช้เวลาน้อยลงได้ประมาณ 10 นาที (ถ้าเราขึ้นรถได้เป๊ะเว่อร์นะคะ แต่ถ้าขึ้นไม่ทัน ก็ต้องเสิร์ชเส้นทางหาเวลารถเที่ยวถัดไปใหม่)
ถึงสถานี Osakako ค่ะ เตยนัดเพื่อนไว้ที่ทางออก 1 ค่ะ
ออกจากสถานี แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ เลยค่ะ จะเห็นชิงช้าสวรรค์ Tempozan Giant Ferris Wheels อยู่ลิบๆ ค่ะ
เราจะข้ามถนนไปฝั่งที่เห็นคนเยอะๆ เนี่ยล่ะค่ะ
เห็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยุคังแล้วค่ะ เดินขึ้นบันไดข้างหน้าเลยค่ะ
เดินขึ้นมาเราจะเดินผ่านประตูเข้า Tempozan Market Place ด้านขวามือค่ะ
ถึงแล้วค่ะ คนเยอะมากกกกกกกกกก ที่เห็นอยู่ด้านหน้านั่น ยืนต่อแถวซื้อบัตรเข้าไคยุคังกันอ่ะค่ะ
มาถึงแล้ว ถึงคนจะเยอะ ก็ต้องทำใจไปต่อคิวนะค้า -_-, คนเยอะมว๊าก
ขอแนะนำสาวน้อยลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น น้องมิอุ เพื่อนเที่ยวดูปลาของน้องอณิวันนี้ค่าาา
เด็กๆ เค้าน่ารักกันจริงๆ ค่ะ ถึงเพิ่งรู้จักกัน แถมน้องมิอุไม่ยอมพูดไทยด้วยค่ะ แต่ฟังรู้เรื่อง ก็ไม่ใช่ปัญหาของการเล่นกันนะคะ แค่เค้ามีเพื่อนก็สนุกกันแล้วค่ะ
ได้บัตรเข้าไคยุคังมาละค่ะ
บัตรผู้ใหญ่คนละ 2,300 เยน บัตรเด็ก 600 เยน ค่ะ เค้าจะมีขายแบบพ่วงนั่งเรือ Santa Maria หรือ ชิงช้าสวรรค์ Tempozan ด้วยนะคะ สามารถเช็คที่เคาน์เตอร์ขายบัตรได้เลยค่ะ แต่เรามีบัตร Osaka Amazing Pass ซึ่งสามารถใช้นั่งเรือและขึ้นชิงช้าสวรรค์ได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอยู่แล้ว เลยซื้อแต่บัตรเข้าไคยุคังค่ะ
และจากที่เรามีบัตรเติมเงิน Kansai One Pass เราสามารถเอาบัตรไปโชว์เพื่อรับของที่ระลึกจากไคยุคังได้นะคะ ไปรับได้่ที่ Information ข้างๆ ที่ขายบัตรด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ของเตยได้มาเป็นกระดาษโน้ตน่ารักๆ ค่ะ
บัตรพร้อมแล้วก็เข้าไปกันเลยค่ะ
ด้านหน้าก็จะมีฉลามวาฬพระเอกของที่นี่ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
พอเข้าไปด้านในเค้าก็จะมีที่ถ่ายรูป พร้อมขายรูป ตามสไตล์ที่ท่องเที่ยวปกติค่ะ
ที่นี่เค้าแบ่งเป็นโซนๆ ค่ะ โดยจะให้เราขึ้นไปเริ่มดูจากด้านบนแล้วเดินไล่ลงมาค่ะ เตยลงภาพคร่าวๆ รวมๆ นะคะ เพราะคนเยอะจริงๆ ถ่ายรูปติดคนเต็มไปหมด เด็กๆ ต้องแทรกตัวเข้าไปดูเกือบจะทุกจุดเลยค่ะ
มีจุดนั่งพักทานอาหาร ชมวิวทะเลด้านนอกชิลๆ ค่ะ
แต่ละจุดจะมีที่ Stamp รูปสัตว์ต่างๆ ถ้าใครชอบสะสมก็เอาสมุดมาปั้มกันได้ค่ะ
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันซักนิดหน่อยค่ะ
นอกจากให้มีสัตว์น้ำให้ดูหลากหลายแล้ว เค้ายังมีโซนที่ให้เราสัมผัสปลาได้ด้วยค่ะ
ช่วงสุดท้ายจะเป็นโซนให้ความรูปเกี่ยวกับปลาฉลามโดยเฉพาะค่ะ
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณเกือบ 3 ชม. ค่ะ เพราะที่นี่ใหญ่จริงๆ ค่อยๆเดินดูไปก็ใช้เวลาพอสมควรค่ะ รวมถึงคนเยอะมากๆ ด้วยค่ะ เพื่อนเตยบอกว่าปกติถ้าวันหยุดที่นี่ก็คนเยอะเป็นปกติค่ะ และช่วงนี้เป็นช่วง Golden Week คนเลยน่าจะมาเยอะกว่าปกติ ทั้งคนญี่ปุ่นเอง ทั้งนักท่องเที่ยวค่ะ เพื่อนเตยแอบบอกว่าคนญี่ปุ่นเค้าชอบมาเดทกันที่นี่ด้วยค่ะ อารมณ์มาดูปลามุ้งมิ้ง55
ก่อนกลับถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในการมีเพื่อนใหม่วันนี้อีกซักรูปค่า แถมมีของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันมาคนละนิดหน่อยค่ะ
ตอนนี้เราก็บ้ายบายน้องมิอุเรียบร้อยแล้ว เรายังมีที่เที่ยวของวันนี้ต่ออีกหน่อยค่ะ ไปต่อกันที่นั่งเรือ Cruise Ship Santa Maria ค่ะ
หันหน้าหาไคยุคัง ให้เดินไปทางด้านขวาค่ะ
เรือ Santa Maria ให้บริการช่วง Day time cruise ระหว่าง 11:00-17:00น. โดยถ้าเรามี Osaka Amazing Pass สามารถขึ้นได้ฟรีค่ะ ตอนที่ไปถึงเรือใกล้จะออกพอดีเลยค่ะ เลยรีบกระโดดขึ้นเรือก่อน ไม่ทันได้ถ่ายรูปกับเรือด้านหน้าเลยค่ะ
หลักๆ เรือจะมี 3 ส่วนค่ะ ส่วนร้านอาหาร / ส่วนพิพิธภัณฑ์ / ส่วนดาดฟ้าเรือนั่งรับลมชมวิว ค่ะ
พอขึ้นไปปุ๊บ ก็จะเจอบันไดขึ้นดาดฟ้าเรือค่ะ ส่วนประตูข้างๆ คือทางเข้าห้องอาหาร
บรรยากาศด้านบนค่ะ
วันนี้ทั้งวันแทบไม่มีเวลาทานข้าวเลยค่ะ เราเลยไปหาที่นั่งตรงส่วนห้องอาหารค่ะ
มาไม่ทันที่นั่งริมหน้าต่างค่ะ อารมณ์คู่รักเค้ามาเดทชี้ชวนกันดูวิวอ่ะค่ะ ยกให้เค้าไปนะคะ 55
ในเรือ Santa Maria จะมีส่วนพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวของเรือด้วยค่ะ เรือ Santa Maria เป็นเรือจำลองของเรือ Santa Maria ที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ใช้ในการสำรวจข้ามมหาสมุทรแอดแลนติกค่ะ
นั่งเรือใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่ะ มาเก็บภาพเรือเต็มๆ กันซักนิดค่ะ
หลังจากนั่งเรือเรียบร้อย เราสังเกตุว่าที่ Tempozan Market Place มี Legoland ด้วย เลยลองไปดูซักหน่อยค่ะ อันนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนของเตยตั้งแต่แรกเพราะไม่เจอข้อมูลส่วนนี้เลยค่ะ กะว่าแล้วค่อยไปขึ้น ขึ้นชิงช้าสวรรค์ Tempozan Giant Ferris Wheels ค่ะ เพราะชิงช้าสวรรค์ปิดดึก 10.00-22.00น. (Ticket sales: Until 21:30)
Legoland จะอยู่ใน Tempozan Market Place ชั้น 3 ค่ะ จากไคยุคังเราเดินย้อนกลับไปทางเดิมที่เรามาค่ะ ทางเข้าอยู่ซ้ายมือค่ะ
ไปชั้น 3 ค่ะ
แต่ว่าาาาา เรามาไม่ทันค่ะ เค้าเปิด 9.00-20.00น. แต่ Last Entry คือ 18.00น. เลยอดเข้าค่ะ
เราเลยกลับไปด้านหน้าตึก เพื่อไปขึ้น ขึ้นชิงช้าสวรรค์ Tempozan Giant Ferris Wheels กันค่ะ
เตยมีบัตร Osaka Amazing Pass 2 ใบค่ะ เพราะเวลาขึ้นรถไฟอณิไม่เสียอยู่แล้ว แต่ขึ้นชิงช้าสวรรค์ ถ้าเด็กอายุเกิน 3 ขวบ เค้าต้องให้ซื้อบัตรด้วยค่ะ 800 เยน เตยเลยซื้อเพิ่มให้น้องอณิ 1 ใบค่ะ
เค้าจะมีให้เลือกว่าจะนั่งแบบธรรมดา หรือแบบซีทรู ค่ะ ถ้าแบบซีทรูต้องรอประมาณ 40 นาทีค่ะ เพราะจำนวนมีไม่เยอะค่ะ
เราขี้เกียจรอค่ะ เลยขึ้นแบบธรรมดาๆ เนี่ยล่ะค่ะ
นั่งชิงช้าสวรรค์เสร็จ ก็ค่ำแล้วค่ะ ไปหามื้อเย็นทานกันใน Tempozan Market Place ค่ะ ที่ชั้น 2 จะมี สวนอาหารนานิวะ (Naniwa Kuishimbo Yokocko) สวนอาหารนี้ออกแบบเป็นเมืองจำลองที่จำหน่ายอาหารพื้นเมืองของโอซาก้า เช่น ทาโกยากิ และโอโคโนมิยากิ บรรยากาศภายในเป็นแบบเมืองเก่าค่ะ
เราเลือกทานโอโคโนมิยากิร้านนี้กันค่ะ ค่าอาหารประมาณ 2,440 เยน ค่ะ
ทานเสร็จน้องอณิก็เดินถ่ายรูปเล่นค่ะ ที่น้องอณิชอบมากค่ะ Standee ที่ให้เอาหน้าไปใส่เนี่ยอ่ะค่ะ ต้องถ่ายให้ครบกันทีเดียว
ก่อนจะกลับ ก็ต้องหาของหวานล้างปากกันซักนิดค่ะ
ครบถ้วนเรียบร้อยสำหรับวันนี้ค่ะ กลับกันได้ค่า… ขอถ่ายกับยีราฟเลโก้ที่อยู่หัวมุมถนนซักหน่อยค่ะ เป็นเลโก้ที่สูงใหญ่มากค่ะ
เดินกลับตรงไปสถานี Osakako เหมือนเดิมค่ะ
ขากลับเรานั่ง Subway line จาก Osakako ไปเปลี่ยนรถที่ Awaza แล้วลงที่ Namba (Subway) ค่ะ
เส้นทางนี้เราใช้ Osaka Amazing Pass ได้เลยค่ะ
วันนี้ขอลาไปด้วยรูป Tempozan Giant Ferris Wheels ยามค่ำคืนค่ะ .. รู้สึกว่าทริปนี้จะเป็นทริปนั่งชิงช้าสวรรค์นะคะเนี่ย ได้ขึ้นเกือบทุกวันเลย ><
พรุ่งนี้เที่ยวโอซาก้ากันต่อค่า
[…] ← รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพาะกิจสำหรับเด็กน้อย Part 1 รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพ… […]