Day 6 (พฤหัส 5 พฤษภาคม 59) : Osaka Castle / Osaka Museum of Housing and Living / Tennoji Zoo / Tsutenkaku Tower / Tombori River Cruise
วันนี้ทั้งวันเราจะใช้ Osaka Amazing Pass 2 day ในการเที่ยวเมืองโอซาก้าตามเส้นรถไฟ Subway กันค่ะ การวางแผนเส้นทางลองดูว่าเราจะไปทีไหนบ้าง พยายามให้การนั่งรถไม่ย้อนไปย้อนมาค่ะ และอย่าลืมเช็คเวลาเปิดปิดของแต่ละที่ เพื่อจะได้วางแผนได้ถูกค่ะว่าจะไปที่ไหนก่อนที่ไหนหลัง
ที่แรกของวันนี้ที่เราจะไปคือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (เปิด 9.00-17.00น.) ค่ะ
จาก Hyperdia เราได้เส้นทางมาคือ ขึ้นจาก Namba(Subway) สาย Sennichimae Line (สายสีชมพู) ไปเปลี่ยนไปสาย Tanimachi (สายสีม่วง) ที่สถานี Tanimachikyuchome (ในแผนที่จะเขียนว่า Tanimachi 9-chome) แล้วไปลงที่สถานี Tanimachiyonchome (Tanimachi 4-Chome)
หลังจากที่เราขึ้นรถไฟจากสถานี Namba(Subway) มาลงสถานี Tanimachi 9-chome เราจะเปลี่ยนไปขึ้นสายสีม่วงที่มุ่งหน้าไปปลายทางที่ Dainichi เพื่อไปลง Tanimachi 4-Chome ค่ะ
มาถึงสถานี Tanimachi 4-Chome เราหาทางออก 1B ค่ะ
ทางออก 1B ที่เราเดินขึ้นมาจากสถานีค่ะ
ขึ้นมาแล้วเราก็เดินชิดซ้ายตรงไปเรื่อยๆ เลยนะคะ ไกลพอสมควรค่ะ
เดินไปซักพักจะเห็นตึกสถานีโทรทัศน์ NHK อยู่ด้านขวามือค่ะ
เดินต่อไปอีกนิด จะเจอแยก ให้ข้ามถนนตรงไปค่ะ
พอข้ามมาก็จะมองเห็นเขตปราสาทโอซาก้าแล้วค่ะ
เดินเลี้ยวไปทางซ้าย เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆ ค่ะ
ขวามือจะมองเห็นเป็นบริเวณกำแพงค่ะ
ไกด์ตัวน้อย พร้อมทำหน้าที่วันนี้แล้วค่าาา
เดินตรงไปเรื่อยๆ สักพักก็จะเจอทางแยก ให้เลี้ยวขวาค่ะ
จะเจอประตูแรกค่ะ ประตู Otemon Gate
ใกล้จะถึงด้านในแล้วค่ะ
เข้าประตูไป เจอบ่อน้ำให้ล้างมือค่ะ
เดินตามทางต่อไปอีกหน่อย ก็เจอด้านหน้าปราสาทแล้วค่าาา
เย้ !! ถึงแล้วค่า
เก็บตกค่ะ ซักพักนึงไกด์สาวน้องอณิก็เกิดอารมณ์ไม่ยอมถ่ายรูปขึ้นมาค่ะ เลยไปยืนดราม่าอยู่หน้าปราสาทโอซาก้าค่ะ ><
แต่ๆๆ ชั่วระยะเวลาไม่นาน พอไอศกรีมช้อกโกแลตถึงมือปั๊บ ความซ่ามาเต็มเหมือนเดิมค่ะ
พื้นที่ด้านหน้าตรงข้ามปราสาท มีร้านขายอาหารขายไอศกรีมอยู่หลายร้านค่ะ ปะป๊าน้องอณิลืมถ่ายมาให้
เราได้เข้าไปเดินชม Osaka Castle Museum ด้านในค่ะ โชว์บัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรีค่ะ ด้านในไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพนะคะ เลยไม่มีภาพเก็บมาให้ชมกันค่ะ เราขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนก่อน แล้วค่อยเดินชมลงมาแต่ละชั้นเรื่อยๆ แต่ละจุดก็น่าสนใจค่ะ น้องอณิจะชอบดูพวกแบบโมเดลจำลอง มีการทำแสงสี บางจุดมีการทำโมเดลเคลื่อนไหวค่ะ แต่ถ้าจะเทียบความสนุก สำหรับเด็กๆ คงไม่สนุกมากเท่าไปเที่ยวสวนสนุกล่ะค่ะ
ส่วนใครอยากใส่ชุดกิโมโนถ่ายกับฉากปราสาทโอซาก้าเป็นที่ระลึก เค้าก็มีบริการด้านล่างก่อนที่จะออกมาจากปราสาท แต่น้องอณิไม่ยอมใส่ค่ะ เราเลยไม่ได้ถ่ายมาค่ะ
ออกจากปราสาทโอซาก้า เราก็เดินทางต่อไปที่ Osaka Museum of Housing and Living เมืองโอซาก้าในยุคเอโดะกันค่ะ (เปิด 10.00-17.00น.)
เตยเลือกเดินกลับไปที่สถานี Tanimachiyonchome (ในแผนที่ Tanimachi 4-Chome) แล้วนั่งรถไฟสาย Tanimachi Line (สายสีม่วง) ไปลงที่สถานี Tenjimbashisujirokuchome (ในแผนที่ Tenjimbashisuji 6-chome)
ถึงสถานี Tenjimbashisuji 6-chome เดินไปทางออกหมายเลข 3
ก่อนจะขึ้นบันไดออกไปข้างนอก ด้านซ้ายมือจะมีประตูเข้าห้าง สามารถกดลิฟต์ ขึ้นไปชั้น 8 เพื่อเข้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย ไม่ต้องอ้อมออกไปข้างนอกก่อน
แต่ถ้าเผลอขึ้นบันได้มาก็จะเจอวิวแบบนี้ค่า
ขึ้นมาแล้ว กลับหลังหัน เดินเข้าไปในตึก ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 8 ได้เหมือนกันค่ะ
ขึ้นไปแล้ว ก็เข้าไปดูพิพิธภันฑ์กันค่ะ เค้าจะให้เราขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปที่ชั้น 10 ก่อน จะเจอภาพวาดแนวญี่ปุ่นสมัยเก่า และสามารถมองลงมาเห็นหมู่บ้านด้านล่างได้ หลังจากนั้นเราก็ลงไปชั้น 9 เพื่อจะเข้าเมืองโอซาก้าในยุคเอโดะ
ด้านหน้าทางเข้าจะมีแปะเวลาเช่าชุดกิโมโนไว้ค่ะ เราไปถึงไม่สามารถเลือกรอบได้นะคะ เค้าจะเปิดขายบัตรเช่าชุดเป็นรอบๆ ค่ะ เช่น ตอนที่เตยไปถึง ถ้าไปกดซื้อบัตรจากตู้ไว้ เตยสามารถเช่าชุดใส่ได้ในรอบเวลา 14.30-15.00น. แต่เนื่องจากเตยเห็นว่าต้องรอนานเกินไป เพราะตอนที่เตยไปถึงเพิ่งจะประมาณเกือบบ่ายโมง แล้วเรายังมีโปรแกรมไปที่อื่นต่อ ไม่อยากเสียเวลารอเพื่อจะเช่าชุดกิโมโนเดินในหมู่บ้าน เตยเลยไม่ได้เช่าค่ะ แต่ถ้าใครมีเวลาไม่รีบ เตยแนะนำให้เช่านะคะ ใส่เดินในหมู่บ้าน น่ารักมากค่ะ
ในเมื่อเราไม่ได้เช่ากิโมโน เราก็เดินไปเที่ยวชมหมู่บ้านโอซาก้าสมัยเอโดะกันเลยค่ะ ตอนไปถึงด้านในหมู่บ้านเป็นเวลากลางคืนค่ะ มืดเชียว
สักพักก็เริ่มรุ่งสางค่ะ ฟ้าเริ่มสว่าง
หมาน่ารักมาก แต่เค้าไม่ให้ขี่นะคร้า น้องอณิทำท่าจะขี่หมา เจ้าหน้าที่รีบมาบอก No no no! 55
ข้าวของเครื่องใช้สมัยเอโดะ
ใช้เวลาเดินเล่นในหมู่บ้านไม่เกินชั่วโมงค่ะ เราก็ไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ชั้น 8 จะมีแสดงเกี่ยวกับเมืองโอซาก้าในยุค 9os มีข้าวของเครื่องใช้ยุคเก่า โมเดลจำลองคล้ายๆ ตอนไปที่ปราสาทโอซาก้าค่ะ
อันนี้เค้าก็ทำเป็นตอนกลางวันกลางคืน มีฉากคนเลื่อนไปเลื่อนมาค่ะ
ใช้เวลาไม่นานเราก็ออกจาก Osaka Museum of Housing and Living ไปต่อกันที่ Osaka Zoo (หรือ Tennoji Zoo) ค่ะ พูดถึงสวนสัตว์ปุ๊บ น้องอณิก็คึกคักขึ้นมาปั๊บค่ะ เดินดูพิพิธภัณฑ์น้องอณิคงไม่ชอบเท่าไหร่ค่ะ 55
จากสถานี Tenjibashisuji 6-chome นั่งรถไปลงที่สถานี Dobutsuen-Mae
นั่งสายสีน้ำตาลกลับลงมาด้านล่าง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ที่สถานี Tenjibashisuji 6-chome เรารอขึ้นรถไฟ Track 1
ถึงสถานี Dobutsuen-Mae เดินไปทางทางออก 1
สถานีเค้าติดรูปสัตว์ไว้ตลอดทาง น่ารัก และไม่หลงแน่นอนค่ะ
พอถึงทางออก ก็เจอสิ่งที่น้องอณิชอบมากที่สุดอยู่ข้างหน้า นั่นก็คือ Standee ที่เอาหน้าไปใส่ถ่ายรูป น้องอณิไม่พลาดค่ะ จัดไป
ออกจากช่องเสียบบัตรรถไฟ เดินเลี้ยวซ้ายก็จะเจอทางออก 1 ค่ะ
ออกมาข้างนอก เดินตรงไปนิดนึงค่ะ จะเห็นป้ายสวนสัตว์ ให้เดินเลี้ยวซ้ายเข้าซอยค่ะ
เดินไปจนถึงทางแยก เราจะเลี้ยวขวา แล้วไปเลี้ยวซ้ายตรงถนนใหญ่ หรือจะตรงต่อไปอีกแล้วค่อยเลี้ยวขวาก็ได้ค่ะ เตยเลือกเลี้ยวขวาที่แยกนี้ค่ะ เพราะเห็นว่าถ้าตรงไปจะเป็นร้านค้าร้านอาหารสองข้างทางในซอยแคบๆ
เลี้ยวขวามาแล้ว และจะไปเลี้ยวซ้ายตรงถนนค่ะ
เดินมาเรื่อยๆ นิดเดียว ขวามือก็เป็นทางเข้าสวนสัตว์ Tennoji Zoo แล้วค่ะ ส่วนซ้ายมือจะเป็นซอยที่ถ้าเราเดินตรงมาจากซอยแคบๆเมื่อกี้แล้วมาเลี้ยวขวา ก็จะเจอกันตรงนี้ค่ะ
มีต้อนรับเป็นภาษาไทยด้วยนะคะ แสดงว่าประเทศเรานี่ไปเที่ยวญี่ปุ่นติดอันดับจริงๆค่ะ
Tennoji Zoo เป็น 9.30 – 17.00 น. ค่ะ
และเราก็เข้าสวนสัตว์ฟรีจากบัตร Osaka Amazing Pass เช่นเคยค่ะ
เราเดินวนไล่ไปเริ่มจากซ้ายมือค่ะ เตยถ่ายมาคร่าวๆ นะคะ ไม่ได้เก็บภาพมาทั้งหมด ที่นี่มีสัตว์เยอะหลากหลายชนิดอยู่ค่ะ รวมถึงสัตว์ที่บ้านเราไม่มีบางประเภทด้วยค่ะ
ไอเดียดีค่ะ โปรโมทหนังเรื่อง Zootopia ในสวนสัตว์
ไปต่อกันอีกโซนค่ะ
ถัดมาก็เจอซุ้มร้านอาหาร ร้านขนมค่ะ ช่วง Golden Week แบบนี้ ที่นี่ก็คนเยอะพอควรเลยค่ะ
อุ๊ต๊ะ! เจอสายไหมที่น้องอณิร้องจะซื้อเมื่อวานแต่ร้านเค้าปิดไปแล้ว ที่เริ่ดกว่าร้านสายไหมคือ เป็นตู้สายไหมหยอดเหรียญให้เราทำเองด้วยค่ะ ถูกใจน้องอณิมากๆ ค่ะ หยอดครั้งละ 100 เยนค่ะ
จากคนเยอะๆ อยู่ๆ ตู้สายไหมก็คนโล่ง ได้จังหวะดีถ่ายรูปมาให้ชมเต็มๆ ค่ะ 🙂
ไปดูสัตว์กันต่อค่ะ โซนแพะ กระต่าย สัตว์ที่ Friendly กับเด็กๆ … ถ่ายรูปมาๆ เอ๊ะๆ เห็นหอคอย Tsutenkaku Tower ที่เราจะไปเป็นที่ถัดไปของวันนี้ด้วยค่ะ เหมือนจะอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ แต่ตอนนั้นเตยไม่ทันคิดค่ะ มัวแต่คิดว่าต้องไปทางรถไฟตามที่วางแผนมาอย่างเดียว เลยเดินกลับไปขึ้นรถไฟ เพื่อไปลงแค่สถานีเดียวค่ะ 555 เอาเป็นว่าถือว่าเป็นการรีวิวเส้นทางทางรถไฟ เผื่อใครไม่ได้มาแวะสวนสัตว์ละกันนะค้า
หมีโคล่าก็มีนะคะ ไม่ต้องไปถึงออสเตรเลีย ^^
โซนเกือบสุดท้ายแล้วค่ะ
สุดท้ายก่อนออกจากสวนสัตว์ค่า
ต่อไปเราจะไปกันที่ Tsutenkaku Tower ค่ะ และจากที่บอกไปแล้วค่ะ จริงๆ จากตรงนี้เดินไปไม่น่าจะไกลมากแล้วค่ะ แต่เราเดินกลับไปขึ้นรถไฟค่ะ รู้สึกไม่ฉลาดเล็กๆค่ะ แต่เอาเป็นว่าไปถึงได้เหมือนกันนะคะ อิอิ
ออกจากสวนสัตว์ ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าเรา เป็นซอยที่สามารถเลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงตรงทางที่เราเข้ามาจากสถานีรถไฟค่ะ
จากสถานีรถไฟ Dobutsuen-Mae นั่งไป Ebisucho(Osaka) เพียงแค่สถานีเดียวค่าาา
สายสีน้ำตาล Track 2 ค่ะ
ถึงสถานี Ebisucho(Osaka) ไปทางออก 3 ค่ะ
ออกมาแล้ว จะเห็นหอคอยชัดเจนค่ะ เดินตรงไปหาเลยค่า
Tsutenkaku Tower เปิด 9.00-21.00น. ค่ะ
ผ่านป้าย Osaka Shinsekai เข้าไป ซ้ายมือจะมีลิฟท์ให้ลงไปด้านล่าง เพื่อที่จะเข้าหอคอยค่ะ
ลงไปถึงด้านล่างก็จะมีเคาน์เตอร์ขายบัตรค่ะ แต่เรามี Osaka Amazing Pass ก็ยื่นให้เค้าดูได้เลยค่ะ เข้าฟรีเหมือนเดิมค่ะ เค้าจะให้เราขึ้นลิฟท์ไปชั้น 2 ซึ่งที่ชั้นสองจะมีคิวรอเพื่อจะขึ้นไปด้านบนอีกทีค่ะ เค้าแจ้งตั้งแต่ด้านล่างค่ะ ว่าใช้เวลารอขึ้นลิฟท์ที่ชั้น 2 ประมาณ 30 นาที
ประตูลิฟท์ ด้านในลิฟท์น่ารักมากค่ะ ที่ญี่ปุ่นเค้าเป็นเจ้าแม่ดีเทลจริงๆ ค่ะ
ออกจากลิฟท์มาที่ชั้น 2 มีจำลองเป็นด้านในรถไฟสมัยก่อน
ได้เวลาต่อคิวเพื่อจะขึ้นไปด้านบนของหอคอยค่ะ ระหว่างทางเดินที่เราต่อคิวนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะเบื่อกันนะคะ มีของให้ชมตลอดทาง รวมถึงตู้หยอดเหรียญแบบจัดเต็มค่ะ
เกริ่นก่อนจะเจอท่าน Billiken ของจริงด้านบนค่ะ
เจอตู้หยอดเหรียญเยอะขนาดนี้ เหรียญในกระเป๋าอณิแทบไม่เหลือค่ะ
ในที่สุดเราก็ถึงลิฟท์ซักทีค่ะ ก่อนขึ้นลิฟท์ เค้ามีแผ่นพับที่บอกเกี่ยวกับประวัติของหอคอยวางไว้ให้ค่ะ
ด้านในของลิฟท์เค้าเปิดไฟบนเพดานลิฟท์เป็นรูปท่าน Billiken ระหว่างที่ลิฟท์ขึ้นไปด้านบนของหอคอยค่ะ น้องอณิมีตื่นตาตื่นใจพอสมควรค่ะ
ถึงชั้น 5 แล้วค่ะ ออกไปชมรอบๆ หอคอยกันเลยค่ะ
เสี่ยงเซียมซีญี่ปุ่น
ท่าน Billiken ขนาดเล็ก ให้นักท่องเที่ยวลูบเท้าอธิษฐานกันค่ะ
เค้ามีให้ซื้อแผ่นพับ ที่สามารถนำไปประทับรูปของเทพเจ้าที่อยู่รอบๆ หอคอยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าประทับครบก็จะโชคดีค่ะ เลยจัดให้น้องอณิซักหน่อย ที่จริงเป็นกิจกรรมที่เด็กๆชอบนะคะเนี่ย
นอกจากแผ่นสำหรับปั้มรูปแล้ว ยังมีแผ่นเขียนคำอธิษฐานด้วยค่ะ
ไฮไลท์หลักอยู่ที่ท่าน Billiken องค์นี้ค่ะ แต่จุดนี้ถ้าใครอยากถ่ายรูปและลูบเท้าท่าน Billiken จะต้องต่อคิว และเค้ามีบริการถ่ายรูปให้ค่ะ ถ้าเราไม่ซื้อรูปเค้าจะให้รูปเล็กเราไว้เป็นที่ระลึกค่ะ แต่เค้าจะไม่ให้เอากล้องเราถ่ายรูปเรากับท่าน Billiken ค่ะ รูปนี้พอดีเตยซื้อรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เลยขอเค้าถ่ายเก็บรูปท่าน Billiken จุดนี้มาให้ชมกันค่ะ
เดินครบรอบชั้น 5 แล้ว เราก็ลงลิฟท์ไปชั้น 4 ค่ะ ที่ชั้น 4 มีรูปปั้นพระพิฆเนศ ตั้งอยู่ให้ขอพรค่ะ รอบๆ ชั้น 4 มีกล้องหยอดเหรียญให้ชมวิวกันค่ะ
ลงลิฟท์มาชั้น 3 เป็นพิพิธภัณฑ์กูลิโกะค่ะ
ปิดท้ายที่ร้านขายขนมผลิตภัณฑ์จากกูลิโกะ ละลานตาค่ะ
มีที่นั่งทานขนมทานกาแฟชมวิวเพลินๆ ค่ะ
ออกจากหอคอยก็เริ่มค่ำค่ะ ได้โอกาสเก็บภาพช่วงหอคอยเปิดไฟไว้พอดีเลยค่ะ
ที่สุดท้ายที่เราจะใช้ Osaka Amazing Pass ของเราคือ ไปขึ้นเรือ Tombori River Cruise ที่ย่าน Dotombori ค่ะ
เราจะขึ้นรถไฟกลับไปลงที่สถานี Namba(Subway) และเดินไปที่ Dotombori เหมือนเดิมกับเมื่อวันที่ 2 ของทริปค่ะ
จากสถานี Ebisucho(Osaka)
พอถึงสถานี Namba(Subway) วันนี้เราเดินไปออกทางออก 14 ค่ะ เดินไปจนถึงคลองตรงป้ายกูลิโกะ เดินเลียบคลองฝั่งตรงข้ามป้ายกูลิโกะเข้าไปค่ะ
หันหลังกลับไปถ่าย เห็นป้ายกูลิโกะอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ
หันกลับมาเดินต่อไปอีกนิดจะถึงจุดขึ้นเรือ ซึ่งอยู่ด้านหน้าร้าน Don Quijote Store ค่ะ
เราต้องเอา Osaka Amazing Pass ไปแลกตั๋วขึ้นเรือค่ะ ส่วนน้องอณิเตยให้นั่งตักก็ไม่ต้องเสียเพิ่มค่ะ
นั่งเรือชมวิวแสงสียามค่ำคืนของย่าน Dotombori ค่ะ
นั่งเรือผ่านเห็นโรงแรมที่เราพักด้วยค่ะ เป็นโรงแรมที่ทำเลดีจริงๆค่ะ
จอดเรือให้ถ่ายป้ายกูลิโกะสัญลักษณ์ของย่านนี้กันเต็มที่ค่ะ
บรรยากาศยามค่ำคืน มีร้องเพลงฟังชิลๆ ริมคลองค่ะ
ลงเรือกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารค่ำกันซักทีค่ะ หลังจากที่วันนี้ตะลอนไปหลายที่ทีเดียว วันนี้เราเลือกร้านซูชิร้านนี้ค่ะ ถ้าร้านปูยักษ์อยู่ซ้ายมือ เดินตรงไปอีกหน่อยร้านนี้อยู่ด้านขวามือค่ะ
ค่าอาหารมื้อนี้ 6,112 เยน ค่ะ
อิ่มกันเรียบร้อย เราลองเดินบนดินกลับโรงแรมดูค่ะ ข้ามถนนแล้วเดินทะลุซอยฝั่งโน้นไปค่ะ
ออกจากซอยก็เห็นโรงแรมละค่ะ ข้ามถนน เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ
สำหรับพรุ่งนี้ เราจะย้ายจะโอซาก้า ข้ามไป Chiba ค่ะ ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ วันนี้ต้องรีบเข้านอนเอาแรงค่ะ
[…] ← รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพาะกิจสำหรับเด็กน้อย Part 2 : Misaki Park/ Universal Studios Japan รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพ… […]
[…] ← รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพาะกิจสำหรับเด็กน้อย Part 2 : Misaki Park/ Universal Studios Japan รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพ… […]