รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพาะกิจสำหรับเด็กน้อย Part 1

0
3180
views

หลังจากที่แล้วครอบครัวเราได้พาเด็กน้อยไปเที่ยวโตเกียวเมื่อปลายปี 2014 ตอนนั้นน้องอณิอายุ 3.5ขวบ เราก็เว้นเวลามาเกือบปีครึ่ง ถึงได้เริ่มออกเที่ยวกันอีกรอบค่ะ  ตอนนี้อณิอายุ 4.9 ขวบ ค่ะ เนื่องจากเน้นพาน้องอณิเที่ยว ปกติเราจะพยายามเลือกไปเก็บเป็นโซนๆ ไม่ต้องเดินทางมากนัก เด็กน้อยจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป เลยเป็นที่มาของ Osaka Trip 2016 ค่ะ แต่ช่วง 2 วันสุดท้ายเราก็มีข้ามเมืองมาแถบ Chiba ก่อนขึ้นเครื่องกลับทางสนามบินนาริตะค่ะ

สรุปวันที่ไปทั้งหมด 8 คืน 9 วัน โดยช่วงที่ไปจะเป็นช่วง 30 เมษายน – 8 พฤษภาคม 2559 ซึ่งจะตรงกับช่วงหยุดยาวของประเทศญี่ปุ่น คล้ายๆช่วงสงกรานต์ของบ้านเราค่ะ เตยจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว เพื่อนถึงบอกว่าจะไปช่วงนี้เหรอมันเป็นช่วง Golden Week ของที่นู่นเลยนะ คนญี่ปุ่นเค้าเดินทาง+เที่ยวกัน คนจะเยอะ ที่เที่ยวก็จะคนเยอะ แต่เราจองตั๋วจ่ายตังค์ไปแล้ว ก็เลยตามเลยค่ะ ไปลุ้นเอา .. แต่พอไปจริงๆ เตยว่าเรื่องคนโอเคเลยนะคะ ไม่เยอะเท่าที่คิด พอไหวอยู่ ที่จะกระทบหน่อยก็น่าจะเป็นโรงแรมค่ะ เพราะรอบนี้เตยใช้เวลาหาข้อมูลก่อนไปไม่ถึงสองเดือน เลยเหลือโรงแรมให้เลือกไม่มาก แถมราคาค่อนข้างสูงด้วยค่ะ

ทริปของเราตามนี้ค่ะ Osaka : Misaki Park / Universal Studios Japan / แวะไป Kobe Anpanman Children’s Museum วันนึง / Rose Garden / Traffic Amusement Park / Aquarium Kaiyukan / Tempozan / Osaka Castle / Museum of Housing and Living / Tennoji Zoo / Tsutenkaku Tower / Dotombori / Sawara -Chiba / Tokyo DisneySea

P1040857new-tile2

ปล.1 ทริปนี้เน้นพาเด็กเที่ยว ไม่เน้นช้อปปิ้งค่ะ ขอบอกว่าไม่ได้เฉียดกรายเข้าใกล้ห้างใดๆเลยค่ะ -_-, และก็ไม่เน้นกินค่ะ หาเอาง่ายๆสะดวกๆค่ะ

ปล.2 การหาข้อมูลการเดินทางหลักๆ ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ Japan for Kids และการรีวิวของชาวพันทิปค่ะ ไม่สามารถเครดิตได้ทั้งหมด เพราะตอนหาก็หาๆไปเก็บข้อมูลไป รวมไปรวมมาบางทีหาต้นเรื่องไม่เจอค่ะ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกรีวิวจริงๆ นะคะ ที่มาแบ่งปันกันค่ะ

ปล.3 เส้นทางที่เตยรีวิว คือทางที่ใช้เดินทางไปสถานที่ต่างๆในทริปนี้ ซึ่งอาจจะมีทางที่ดีกว่า สะดวกกว่า ยังไงก็สามารถแนะนำได้นะคะ สำหรับเตยที่เลือกไปตามนี้คือ ตอนหาข้อมูลอ่านแล้วเข้าใจว่าต้องไปทางไหนยังไง เลยเลือกการเดินทางตามนี้ค่ะ

ปล.4 รีวิวนี้เตยรีวิวค่อนข้างละเอียด เผื่อใครหาข้อมูลจะได้เข้าใจได้ง่าย ส่วนถ้าใครเคยไปบ่อยๆ มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็อาจจะเยอะเกินไปซักหน่อยค่ะอย่าถือสากันนะคะ ^_^ ส่วนรูปก็ออกมาจากกล้องเลยค่ะ รูปอาจไม่ค่อยสวยมากนะคะ เน้นเยอะไว้ก่อนค่ะ 55 ><

ปล.5 ค่าใช้จ่ายเตยจะใส่ค่าใช้จ่ายหลักๆ ไว้บ้างนะคะ ส่วนพวกค่ากินค่าเดินทางยิบย่อย รวมถึงค่าช้อปปิ้ง จะไม่ได้ใส่ไว้นะคะ ทริปนี้เน้นพาลูกเที่ยว เอาตามสะดวกนะคะ ไม่ได้สิ้นเปลืองแต่ก็ไม่ได้เน้นที่จะต้องประหยัดเท่าไหร่

เริ่มจากส่วนที่เตรียมจองและซื้อก่อนเดินทางนะคะ

ตั๋วเครื่องบิน : ได้โปรการบินไทยช่วงต้นเดือนก.พ.มาค่ะ แต่ถือว่าแพงทีเดียวค่ะสำหรับราคาโปร ได้ราคาชั้นประหยัดคนละ 20,550 บาท โดยไม่มีราคาเด็กนะคะ ของน้องอณิก็ราคาเดียวกัน และ Flight ที่ออกเดินทางเลือกได้เป็นช่วงเดินทางสายถึงเย็น ออกเดินทางเช้าวันเสาร์ที่ 30 เมษายน เวลา 11.00น. TG672 เครื่องบิน Boeing 747  ส่วนขากลับเตยกลับ Flight TG677 ออกเดินทางวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม เวลา 17.25น. เครื่องบิน Airbus  A380 ค่ะ   นอกจากตั๋วเดินทางจากไทยแล้ว เตยยังมีขึ้นเครื่องบินภายในประเทศจากโอซาก้า มานาริตะ ด้วยค่ะ ส่วนนี้เตยจะลงรายละเอียดอีกครั้งวันเดินทางนะคะ

ที่พัก : โรงแรมนี่เป็นอย่างเดียวที่ปะป๊าน้องอณิมีเงื่อนไขค่ะ คือจะรีเควสว่าต้องเป็นโรงแรมที่เดินทางสะดวกมากๆ เท่านั้น โดยเฉพาะตอนเดินทางที่ต้องมีกระเป๋าเดินทางใหญ่ทั้งขาเข้าขาออกจากโรงแรม ก็ต้องจัดให้ฮีตามนั้นค่ะ ซึ่งการที่จะสะดวกขนาดนี้ก็ต้องยอมรับราคาที่ไม่ถูกเลยค่ะ แถมช่วงที่ตัดสินใจจองโรงแรมรอบนี้เตรียมตัวล่วงหน้าไม่นาน พอเริ่มหาโรงแรมส่วนใหญ่ก็แทบจะเต็มหมดแล้วค่ะ เลยจำใจรีบจองไปค่ะ ที่พักทั้งสองที่เตยจองผ่าน Agoda ค่ะ

โรงแรมที่เลือกเป็นที่พักหลักในโอซาก้าคือ โรงแรม Hotel Monterey Grasmere Osaka ค่ะ จะอยู่ใกล้มากๆ กับท่ารถลีมูซีนบัส และใกล้กับสถานีรถไฟ Namba ทั้ง JR, Subway, รวมถึงสายอื่นๆ เช่น Hanshin , Nankai ก็เดินไปได้ไม่ยากค่ะ พัก 6 คืน ราคาตกคืนละ 8,100 บาท ค่ะ ซึ่งปกติราคาที่นี่อาจจะไม่ถึงเท่านี้นะคะ เตยเช็คๆดูก็มีหลายเรทแล้วแต่ช่วงที่ไปพักค่ะ แต่คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นช่วงที่คนไปเที่ยวกันรวมถึงเตยจองก่อนไม่นานด้วยมั้งคะ ลิงค์โรงแรมค่ะ

http://www.hotelmonterey.co.jp/en/htl/grasmere_osaka/

P1040527.JPG

ส่วนโรงแรมที่ Chiba เตยเลือกพักที่ Hotel New Otani Makuhari พัก 2 คืน คืนละ 5,500 บาทค่ะ เหตุผลที่เลือกที่นี่ ที่สำคัญเลยคือ มีรถบัสรับส่งจากสนามบินมาถึงหน้าโรงแรม (เงื่อนไขของปะป๊าอณินั่นเอง 55) และ มีรถรับส่งไปดิสนีย์ฟรีค่ะ และรอบนี้เตยไม่ได้จะเข้าเมืองโตเกียวที่นี่เลยเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ ลิงค์โรงแรมค่ะ  http://www.newotani.co.jp/en/makuhari/

P1060860

การเดินทางในญี่ปุ่น  : จากเส้นทางที่จะไปเที่ยว เตยไม่ได้ซื้อตั๋ว JR Pass ไปค่ะ เพราะเราไม่ได้มีการเดินทางข้ามเมืองที่จะใช้รถไฟชินคันเซน หรือไม่ได้เดินทางโดยรถสาย JR สักเท่าไหร่ค่ะ แถมที่โอซาก้าเส้นของ JR ก็ไม่ได้ครอบคลุมมากเท่าที่โตเกียวค่ะ เตยเลยเลือกซื้อเป็นบัตรเติมเงินเพื่อความสะดวก และเลือกซื้อ pass ที่เหมาะสมในการเดินทางแต่ละวันแทนค่ะ ส่วนนี้เตยจะลงรายละเอียดในช่วงที่เดินทางถึงโอซาก้าแล้วนะคะ

Pocket Wifi : เตยเลือกใช้ของ Samurai Wifi เจ้าเดิมที่เคยใช้ครั้งที่แล้วค่ะ 9 วัน ราคา 1,950 บาท ค่ะ รอบนี้เตยไม่ได้ซื้อประกันเครื่องไว้นะคะ เพราะคิดว่าพอรักษาได้ ส่วน Power bank ก็สามารถใช้ของ IPhone ได้ค่ะ เตยเลือกชำระเงินแบบชำระตอนที่ได้รับของนะคะ โดยจะเลือกวันรับของก่อนหน้าซัก 2 วัน เผื่อมีปัญหาจะได้แก้ไขได้ค่ะ ซึ่งการมาส่งมารับคืนของบริษัทก็ไม่มีปัญหาค่ะ มาตรงเวลาตามที่เราแจ้งไว้ตอนสมัครรับบริการค่ะ

การใช้งานก็โอเคเหมือนเดิมค่ะ สัญญาณดีแทบจะทุกที่ ยกเว้นเราลงไปใต้ดินเยอะหน่อย เช่นที่ DisneySea ในโซนของ Mermaid Lagoon ที่ดูโชว์ สัญญานดูเหมือนจะเข้าไม่ถึงค่ะ และก็มีต้อง reset บ้าง ประมาณหนึ่งครั้ง ในแต่ละวัน แบตเตอรี่ก็อยู่ได้นานหลายชั่วโมงค่ะ ถ้าชาร์ตเต็ม อยู่ได้ตั้งแต่เช้าตรู่ยันค่ำๆ .. โดยรวมhappyค่ะ … ดูรายละเอียดตามลิงค์นี้ค่ะ http://www.bs-mobile.jp/th/

เสื้อผ้าของน้องอณิ : ช่วงที่ไปอากาศกำลังสบายค่ะ ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 16-23 องศา ช่วงกลางวันก็แดดแรงไม่ค่อยหนาวค่ะ จะเย็นช่วงเช้าๆ กับช่วงบ่ายๆไป มีลมจะเย็นหน่อยค่ะ จะว่าไปก็อากาศประมาณช่วงที่ประเทศไทยเรามีหนาวอยู่วูบนึงอ่ะค่ะ 😛 เสื้อผ้าที่เตรียมไปก็เลยไม่ต้องหนามากค่ะ เอาเสื้อผ้าปกติ+เลกกิ้ง+เสื้อคลุมแบบคาดิแกน ก็เอาอยู่สบายๆ ค่ะ การจัดเสื้อผ้ารอบนี้ได้ไอเดียมาจากเวป 2madames.com ค่ะ โดยเราจะจัดเสื้อผ้าเป็นชุดๆเรียงวันเลยค่ะ แล้วเรียงเอาสันขึ้นเพื่อที่จะได้เห็นชุดง่ายๆค่ะ ไอเดียมาจากลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.2madames.com/%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87/#more-18535

รถเข็นน้องอณิ : ยังคงใช้รถเข็นก้านร่ม Maclaren รุ่น Volo ค่ะ น้ำหนักประมาณ 4 กก. เหมือนเดิมค่ะ แต่มารอบนี้น้องอณินน.เยอะขึ้นมาก ปะป๊ามามี๊เข็นแล้วเหนื่อยเอาเรื่องอยู่ค่ะ ปะป๊าเลยมีประกาศิตมาว่าเที่ยวคราวหน้าน้องอณิต้องเดินเอง ไม่ให้เอารถเข็นมาค่ะ เพราะเกะกะ แถมต้องค่อยหาลิฟท์ ถ้าไม่มีก็เดือดร้อนต้องแบกขึ้นลงบันไดค่ะ แต่ข้อเสียของการไม่มีรถเข็น แอบคิดว่า เวลารีบๆ คงลำบากหน่อยเพราะเด็กให้วิ่งยังไงก็ช้าอยู่ดี แถมเกิดต้องอุ้มนี่ไม่อยากจะคิด รวมถึงช่วงที่เกิดง่วงหลับขึ้นมาอีก ลำบากอิแม่แน่นอนค่ะ .. แต่ก็คงต้องลองดูค่ะ เริ่มจะเป็นสาวแล้ว ขนาดตัวเท่านี้นั่งรถเข็น เด็กญี่ปุ่นเห็นแล้วมองแปลกๆทุกที 55

********************************************************************

มาเริ่มออกเดินทางกันเลยค่า

Day 1 (เสาร์ 30 เมษายน 59)  :

11.00 น.  ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ Thai Airways International TG672

เราไปถึงสนามบินประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ โดยเตยทำ Internet Check-in ระหว่างที่นั่งรถมาค่ะ  พอถึงเราไปต่อแถวที่ฝากกระเป๋าได้เลยค่ะ จากนั้นเราก็ส่งกระเป๋าและรถเข็นเข้าไปค่ะ เรื่อง Mobile Check-in นี่แนะนำเลยนะคะ ประหยัดเวลาต่อแถวไปได้เยอะเลยค่ะ โหลด app THAI Mobile ไว้ใช้ได้เลยค่ะ

ทริปนี้เรายังคงใช้กระเป๋าใหญ่ 1 ใบ เป้ติดตัว 1 ใบ รถเข็น 1 คัน ค่ะ

IMG_3870

เช็คอินเรียบร้อยแล้วยังเหลือเวลาชั่วโมงกว่าๆ เลยไปนั่งทานข้าวเช้ากันก่อนค่ะ

P1040452

อิ่มท้องแล้ว ได้เวลาก็เตรียมตัวบ้ายบาย Thailand กันค่า

P1040461-horz.jpg

ลั่นล้ารอขึ้นเครื่องค่า 🙂

IMG_3878.JPG

รอบนี้ขึ้นเครื่องสบายๆ ค่ะ น้องอณิทานอาหารบนเครื่อง ดูการ์ตูนไปได้ไม่ทันจบก็หลับๆ ตื่นๆ กันไปจนถึงที่สนามบินนานาชาติคันไซค่ะ

18.30น. (เวลาที่โอซาก้า) ถึงสนามบิน Kansai International Airport Terminal 1 หลังจากเครื่องลงรับกระเป๋าเรียบร้อยออกมาแล้ว เราจะไปที่เคาน์เตอร์ Travel desk กันก่อนค่ะ เพื่อที่จะไปซื้อ Pass ที่เราจะใช้กันค่ะ Travel desk จะอยู่ชั้น 1 ตรงกลางระหว่างทางออกทั้งสองฝั่ง

Screenshot (199)

P1040467

P1040469-tile

Pass ที่เราจะซื้อมี 2 อย่างค่ะ อันแรกคือ Hanshin Tourist Pass จากนัมบะสู่โกเบ 1 day ราคาใบละ500 Yen เตยซื้อ 2 ใบ เพราะน้องอณิยังเดินทางรถไฟสายต่างๆได้ฟรีค่ะ ดูรายละเอียดได้ในเวปของ Hanshin ค่ะ http://www.hanshin.co.jp/global/en/tourist/

IMG_4118

Pass อีกใบที่เราซื้อที่ Travel Desk ก็คือ Osaka Amazing Pass เตยเลือกแบบ 2 Day ราคา 3,000 Yen ค่ะ จริงๆ Pass นี้จะมีแบบ 1 day (2,300Yen) ด้วยค่ะ ลองเลือกดูแล้วแต่แผนการเดินทางเที่ยวของเราค่ะ Pass นี้ จะใช้เดินทางโดย Subway ได้ตลอดวัน และฟรีค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้าหลายที่มากๆ ค่ะ บางที่ถ้าไม่ฟรีก็มีส่วนลดให้ค่ะ ยังไงลองเข้าไปเช็ครายละเอียด และสถานที่ซื้อ Pass กันได้ที่เวปนี้ค่ะ http://www.osaka-info.jp/osp/en/index.html

IMG_4117

ที่เตยเลือกจะไม่ซื้อ Kansai Thru Pass เพราะจากแพลนเราไม่ได้ไปเมืองต่างๆในคันไซมากนัก จะอยู่เฉพาะในโอซาก้าค่ะ แต่ถ้าใครเดินทางท่องเที่ยวในแถบคันไซหลายๆเมือง Kansai Thru Pass ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกพาสนึงค่ะ ลิ้งค์รายละเอียดของพาสตามนี้ค่ะ http://www.surutto.com/tickets/kansai_thru_english.html

พอซื้อพาสที่ Travel Desk เรียบร้อย เตยก็จะไปซื้อบัตร ICOCA ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินในแทบนี้ เหมือนกับบัตร Suica ที่โตเกียว https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/icoca-haruka/ แต่ก่อนจะเดินทางไม่กี่วัน เพื่อนเตยที่อยู่ญี่ปุ่น ส่งรายละเอียดของบัตร Kansai One Pass มาให้ เตยลองเข้าไปอ่านดู สรุปว่าใช้ได้เหมือนบัตร ICOCA เลย แต่จะมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการช้อปปิ้งต่างๆ รวมถึงมีของที่ระลึกที่สถานที่ท่องเที่ยวที่เราไปด้วยค่ะ แต่บัตร Kaisai One Pass จะต้องจ่าย 3000Yen รวม Deposit 500Yen แล้วค่ะ ส่วนบัตร ICOCA จะซื้อได้ที่ 2000Yen รวม Deposit 500Yen เหมือนกันค่ะ เตยเลือกซื้อ Kaisai One Pass เพราะคิดว่า 2500 Yen น่าจะใช้หมดพอดีๆ แล้วยังได้สิทธิพิเศษจากบัตรด้วย บัตรนี้มีอายุ 10 ปี เหมือน ICOCA ปกติเลยค่ะ เก็บไว้ใช้ทริปหน้าได้ค่ะ http://kansaionepass.com/kf_pr/kf_pr_en.html

ถ้าจะซื้อบัตรนี้ในสนามบินคันไซ สามารถซื้อได้ 2 ที่ค่ะ ที่ JR-West หรือ Nankai Electric Railway Ticket Office ก็ได้ค่ะ แต่ตอนนั้นลืมดูไปในคิดแต่ JR เลยเลือกไป JR  แต่ตอนนี้ก็แอบคิดในใจว่าน่าจะเลือกผิดเพราะ JR คนเยอะ รอนานมากกกกเลยค่ะ เราจะไป JR-West Office ก็ขึ้นไปชั้น 2 แล้วเดินออกประตูไปตามป้าย JR Station ค่ะ

P1040473

พอขึ้นมาชั้น 2 ก็เดินตามทางนี้ค่ะ

เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอทางเข้าสถานีรถไฟด้านขวามือค่ะ

P1040478

ส่วน Ticket Office ของทั้ง Nankai และ JR-West จะอยู่ใกล้ๆกันด้านซ้ายมือค่ะ จะเดินถึง Nankai ก่อน

เดินเลยไปนิดก็จะเจอ JR office ค่ะ

P1040479

เตยเข้าไปซื้อที่ JR ค่ะ จะมีเคาน์เตอร์ 2 ชั้น ติดต่อได้ทั้งสองชั้นค่ะ ถ้าขึ้นไปชั้นสองเค้าก็มีที่ล๊อคกระเป๋าไว้ด้านล่างให้ด้วยค่ะ

บัตร Kansai One Pass หน้าตาแบบนี้ค่ะ น่ารักน่าใช้มากๆ

P1040503

ซื้อบัตรต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ได้ฤกษ์เดินทางไปเข้าพักที่โรงแรมกันซักทีค่ะ เนื่องจากโรงแรมเราใกล้กับท่ารถลีมูซีนบัส OCAT เราเลยเลือกไปขึ้นรถบัสค่ะ เลยต้องเดินกลับเข้าทางเดิมไปที่ Terminal 1 เหมือนเดิม โดยเราจะไปขึ้นรถบัสที่ชั้น 1 ด้านนอกค่ะ

P1040491

ลงไปชั้น 1 เดินออกมาด้านหน้าอาคาร ก็จะเจอกับป้ายบอกจุดขึ้นรถต่างๆ ค่ะ

P1040492

ของเราจะไปที่ OCAT Namba ต้องเดินเลี้ยวขวาไปหาป้ายเบอร์ 11 ค่ะ ตั๋วขึ้นรถสามารถซื้อได้ที่ตู้ขวามือ ใกล้ๆกับเบอร์ 11 จริงๆ ตอนที่หาข้อมูล เตยตั้งใจว่าจะซื้อตั๋วเป็นแบบ round trip เพราะขากลับก็ต้องขึ้นรถบัสกลับเหมือนกันค่ะ แต่เอาเข้าจริงตอนเดินไปถึง ก็ใกล้เวลารถรอบถัดไปจะมาแล้ว เลยรีบๆ ลืมไปเลยค่ะ เลยกดซื้อมาแบบเที่ยวเดียว แต่ถ้าซื้อแบบไปกลับอาจจะต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ค่ะว่ากดอันไหน เค้าจะมีช่องให้ถามติดกับตู้ซื้อตั๋วค่ะ ทีนี้เราซื้อเที่ยวเดียวก็จิ้มไปที่ OCAT สีส้มเลยค่ะ ซื้อ 2 ใบ ค่ะ น้องอณิไม่ต้องเสีย ทีนี้เตยกดแบบซื้อ 2 ใบเลยไม่เป็น ไม่รู้ทำได้มั้ยอ่ะค่ะ เลยกดซื้อทีละใบ 2 รอบค่ะP1040495

P1040496

สามารถเช็คตารางเวลารถได้ที่เวปไซต์ ตามลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.kate.co.jp/en/timetable/detail/OC

ซื้อตั๋วเรียบร้อยก็มารอขึ้นรถกันค่ะ

P1040498

รถมาแล้ววววว

P1040500

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ค่ะ แล้วเราก็มาถึงท่ารถ OCAT Namba ค่ะ ลงรถมาปั๊บ ตอนนี้เราอยู่ชั้นสองค่ะ พอเข้าประตูไปก็จะเจอป้ายนี้ บอกว่าถ้าใครจะไปขึ้นรถไฟ ให้ลงไปชั้น 1 ก่อน แล้วค่อยลงบันไดเลื่อน หรือลิฟท์อีกตัวลงไปใต้ดินค่ะ แต่ของเราไม่ต้องเดินทางต่อ ก็ลงไปชั้น 1 แล้วเดินออกไปหาโรงแรมเลยค่า

P1040508

ลงลิฟท์ตัวนี้ค่ะ

P1040510

ลงไปปั๊บก็จะเจอป้ายชี้ทางไปโรงแรม Hotel Monterey Grasmere Osaka ให้เลยค่ะ

P1040514

เราก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ค่ะ

เดินตรงจนถึงประตูออกจากตึกค่ะ ออกไปปั๊บ มองเงยไปทางขวา ก็จะเห็นโรงแรมอยู่ใกล้ๆ เลยค่ะ

P1040524

เดินเข้าไปถึงตึกโรงแรม เข้าประตูไปก็จะเจอกับประตูนี้ และมีชี้บอกว่าเข้าไปแล้วให้เดินไปขึ้นลิฟท์ไปชั้น 22 ค่ะ

Lobby โรงแรมจะอยู่ชั้น 22ค่ะ ขึ้นไปถึงก็จะเจอบรรยากาศการตกแต่งบริเวณ Lobby แบบนี้ค่ะ

ไปเช็คอินกันค่ะ ที่นี่เค้ามี Free-Wifi ให้ด้วยค่ะ สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องใส่ Password ค่ะ

ห้องพักของเราอยู่ชั้น 29 ค่ะ บรรยากาศในห้องพักค่ะ ห้องเล็กตามสไตล์โรงแรมญี่ปุ่นในเมือง โดยรวมโอเคค่ะ ความสะอาดก็ใช้ได้ มีตู้เสื้อผ้า แล้วก็มีชุดนอนเป็นเสื้อกางเกงให้ด้วยค่ะ

วิวจากห้องนอนค่ะ น้องอณิบอกว่า วิวสวยจังค่ามามี๊ 🙂

P1040555

วันนี้มากว่าจะมาถึงที่พักก็ประมาณ 3 ทุ่มกว่าแล้วค่ะ เลยให้ปะป๊าออกไปซื้ออาหารจาก 7-11 มากินบนห้อง ตรงนี้สะดวกมากค่ะ เดินออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกล ก็มี 7-11 ใหญ่อยู่ค่ะ เป็นแหล่งอาหารสบายๆ ค่ะ แถมใกล้ๆ ตรงชั้นใต้ดินใต้ตึกจุดที่เราออกมา ก็มีร้านแมคโดนัลด์ค่ะ จบวันแล้วค่ะวันนี้ น้องอณิสลบรออาหารล่ะค่ะ ^_^

P1040551

 

ตามไปเที่ยวต่อกันค่า รีวิว ทริปโอซาก้า ช่วง Japan Golden Week, May 2016 เฉพาะกิจสำหรับเด็กน้อย Part 2 : Misaki Park/ Universal Studios Japan

 

 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here